top of page

[MARKMIN] :: จักรพรรดินี #empressmm

  • Writer: 97melancholy
    97melancholy
  • Mar 2, 2019
  • 3 min read

จักรพรรดินี

Warning!

มีเนื้อหาไม่เหมาะสมในเรื่องเพศที่รุนแรง นักอ่านที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน

ปล.บุคคลและสถานที่ในเนื้อเรื่องเป็นเพียงจินตนการของผู้เขียน ไม่มีอยู่จริง


Title: จักรพรรดินี

Couple: Mark x Jaemin (Fem!)

Rate: 18+

Characters:

1. Queen Izabella Arthur laura Adi Zajah (Jaemin) :: จักรพรรดินีอิซาเบลล่า อาเธอร์ ลอร่า อาดิซายาห์ แห่งราชอาณาจักรอาดีซายาห์

2. Markus Thomas Nyuwsberge (Mark) :: มาร์คัส นิวส์เบิร์ก (ราชเลขานุการในพระองค์)

3. Perzeus Thomas Nyuwsburge (Mark) :: เพอร์เซอุส นิวส์เบิร์ก (พระพี่เลี้ยงในพระองค์)

4. Roys Thomas Nyuwsburge (Mark) :: รอยส์ นิวส์เบิร์ก (ราชองครักษ์ในพระองค์)

5. Crown Prince Sebastian Jaden Gionato (Mark) :: เจ้าชายรัชทายาทเซบาสเตียน เจเดน จิโอนาโต้ แห่งราชอาณาจักรเพอร์เมอุส

_____________________________________________


หญิงสาววัยแรกแย้มในชุดเดรสผ้าไหมยาวคลุมข้อเท้าสีแดงเลือดนกปักลวดลายด้วยลูดปัดแก้วคริสตัลที่ส่องแสงเป็นกระกายวาววับอย่างประณีตและสวยงามสมเกียรตินั่งกอดเข่าซบใบหน้าของตนเอาไว้เพื่อกักเก็บหยาดน้ำตาไม่ให้ไหลรินบนเตียงนอนหลังกว้างภายในห้องนอนขนาดใหญ่ เธอนั่งเงียบๆ ไม่เปล่งวาจา หรือให้ความสนใจกับเสียงเคาะประตูห้องนอนที่ดังมาอย่างต่อเนื่อจวนจะครบสิบนาทีก่อนที่ประตูห้องนอนจะถูกไขออกด้วยกุญแจจากชายหนุ่มที่แก่กว่านับ 10 ปี


"ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ องค์หญิง แต่พระองค์ควรลงไปยังห้องโถงเพื่อเข้าพิธีราชินีพิเษกได้แล้ว" เสียงทุ้มที่ทั้งน่าฟังและน่าเกรงขามไปในเวลาเดียวเอ่ยขึ้น


"เช็ดน้ำตาเสียเถอะพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ไม่ควรแสดงความอ่อนแอให้นายกรัฐมนตรีเครมเวลล์และเหล่าคณะรัฐมนตรีได้เห็น" เสียงทุ้มที่อยู่ในโทนเดียวกันกับเสียงเรียกเอ่ยขึ้นตามมา


"บัลลังก์นี้เเป็นของพระองค์ ประเทศนี้เป็นของพระองค์ ไม่ว่าจะเสียใจมากแค่ไหน กระหม่อมขอให้พระองค์ทรงเก็บมันเอาไว้แล้วไปแสดงให้รัฐบาลและประชาชนของประเทศนี้ได้เห็นว่าพระองค์พร้อมที่จะเป็นองค์จักรพรรดินีของประเทศนี้และพวกเขาทุกคน" เสียงทุ้มเสียงที่สามที่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามเอ่ยขึ้นต่อจากคนก่อนหน้าเพื่อเตือนสติให้กับองค์เหนือหัวที่เขาและพี่ชายฝาแฝดอีกสองคนคอยดูแลและอยู่เคียงข้างมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย


"พวกเธอบอกให้เราเข้มแข็ง พวกเธอบอกให้เราละทิ้งความเสียใจ ให้เราออกไปแสดงต่อหน้าทุกคนว่าเราพร้อมทั้งๆที่เราไม่พร้อมอย่างนั้นหรือ ทั้งๆที่พระบรมศพของพระบิดาและพระมารดาเพิ่งจะถูกฝังกลบด้วยดินไปเมื่อวานอย่างนั้นหรือ พวกเธอจะให้เราทำแบบนั้นจริงๆหรือ" หญิงสาวที่สิริโฉมงดงามเอ่ยถามคนสนิททั้งสามคนออกไปด้วยน้ำเสียงตัดพ้ออย่างน้อยเนื้อต่ำใจ


"หามิได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทราบดีว่าพระองค์ทรงเสียพระทัยมากแค่ไหน แต่ในเวลานี้ เพื่อบัลลังก์ที่พระบิดาของพระองค์สร้างมาเพื่อให้พระองค์ได้ครอบครองต่อ พระองค์ควรกักเก็บความเสียพระทัยเอาไว้ก่อน เมื่อพิธีเสร็จสิ้น และพระองค์ได้เป็นองค์จักรพรรดินีแห่ราชอาณาจักอาดีซายาห์ตามกฎมณเฑียณบาลแล้วนั้น กระหม่อมและน้องชาย จะคอยอยู่เคียงข้างเพื่อซับน้ำพระเนตรให้กับพระองค์เอง" มาร์คัส โธมัส นิวส์เบิร์ก ราชเลขานุการในพระองค์ พี่ชายคนโตของแฝดสามแห่งตระกูลนิวส์เบิร์กที่คอยรับใช้และจงรักภักดีต่ราชวงศ์อาดีซายาห์มาตั้งแต่องค์จักรพรรดิอาดีซายาห์ที่ 1 เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น


"ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ" เพอร์เซอุส โธมัส นิวส์เบิร์ก พระพี่เลี้ยงในพระองค์ที่เลี้ยงดูหญิงสาวมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ฝาแฝดคนกลางจากแฝดสามแห่งตระกูลนิวส์เบิร์ก เดินเข้าไปใกล้เตียงนอนหลังใหญ่ขององค์เหนือหัวก่อนจะย่อกายลงนั่งคุกเข่ายื่นมือไปจับข้อเท้าของสตรีผู้สูงส่งที่ตนและพี่น้องให้ความเคารพนับถือแล้วออกแรงดึงให้เท้าเรียวสวยสะอาดสะอ้านทั้งสองข้างวางลงบนต้นขาแกร่งแล้วสวมรองเท้าส้นสูงให้อย่างเบามือ จากนั้นจึงยืนขึ้นโค้งตัวลงส่งมือใหสตรีผู้สูงส่งได้หยัดยืนขึ้น


"ไม่ต้องทรงกังวลใดๆทั้งสิ้น กระหม่อมจะคอยเฝ้ามองพระองค์อย่างไม่คลาดตาดั่งเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา ขอพระองค์ทรงปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้อย่างสบายพระทัยเถิดพ่ะย่ะค่ะ" รอยส์ โธมัส นิวส์เบิร์กเอ่ยกับสตรีเหนือหัวที่ตนเฝ้าอารักขาอย่างนอบน้อมหลังจากที่สวมผ้าคลุมขนแกะที่ขาวสอาดตาให้กับสตรีผู้สูงส่งผู้นี้เสร็จ


"ขอบคุณพวกเธอทุกคนมาก สัญญากับเรานะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเธอจะไม่ทิ้งเราไปไหน ชีวิตนี้เราไม่เหลือใครอีกแล้วนอกจากพวกเธอ คนที่คอยเล่นกับเรา คอยดูแลเรา และเป็นเพื่อนของเรา" เจ้าหญิงรัชทายาทอิซาเบลล่า อาร์เธอร์ ลอร่า อาดี ซายาห์ พระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวขององค์จักรพรรดิอาร์เธอร์และองค์จักรพรรดินีลอร่าที่สิ้นพระชนม์ไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเอ่ยกับคนสนิททั้งสามคนด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เก็บซ่อนความกังวลและความกลัวเอาไว้ไม่มิด แต่ก็ต้องยอมรับว่าเธอรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้างที่อย่างน้อยก็ยังมีชายหนุ่มทั้งสามคนคอยอยู่เคียงข้างในวันที่แสนสำคัญดั่งเช่นวันราชินีภิเษกนี้


"พ่ะย่ะค่ะ องค์หญิง" สามแฝดแห่งตระกูลนิวส์เบิร์ก ตระกูลเก่าแก่ที่อยู่เคียงข้างราชวงศ์อาดีซายาห์มาตั้งแต่สมัยก่อตั้งราชอาณาจักรขานรับพร้อมกับโค้งกายคำนับให้กับสตรีผู้สูงส่งที่พวกเขาทั้งสามคนและครอบครัวให้ความเคารพรักและปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีต่อราชวงศ์อาดีซายาห์ตลอดไป





ท้องพระโรงที่ถูกเนรมิตให้เป็นสถานที่สำหรับพระราชพิธีราชินีพิเษกตกแต่งด้วยดอกกุหลาบสีแดงเข้มจนแทบจะเป็นสีเลือดอย่าง Black Baccara Rose สลับกับดอกกุหลาบสีขาวที่ต่างเป้นดอกไม้ที่เจ้าของงานโปรดปรานเป็นที่สุดจากดอกไม้ทั้งปวง


เสียงเป่าฮอร์นที่ทำจากขนสัตว์ดังกังวาลไปทั่วท้องพระโรงเมื่อองค์หญิงรัชทายาทเสด็จมาถึงลานพิธี แขกที่ถูกจัดว่าเป้นบุคคลชั้นสูงในสังคมยืนขึ้นเพื่อให้เกียรติแด่ว่าที่องค์ราชินีที่เดินเข้ามาในลานพิธีโดยมีราชองครักษ์เดินนำหน้า และถูกตามหลังด้วยราชเลขาฯและพระพี่เลี้ยงอย่างสง่างามดึงดูดให้ทุกสายตาในลานพิธีเห็นนี้ต่างจับจ้องจนไม่อาจละสายตาไปไหนได้เพราะความสิริโฉมงดงามของใบหน้าและผิวกายที่ขาวเนียนที่ยิ่งขาวมากยิ่งขึ้นจากแลองพระองค์สีแดงเข็มสีเดียวกับดอก Black Baccara Rose ที่ทรงโปรดปราน


ทุกคนนั่งลงเมื่อสตรีผู้สูงส่งดินมาหยุดอยู่ตรงแท่นพิธีที่มีนายกรัฐมนตรีเคลมเวลล์ยืนรออยู่ก่อนแล้ว มันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาช้านานที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้สวมมงกุฏิให้กับกษัตริย์หรือราชินีในพระราชพิธีราชาภิเษกหรือพระราชภิธีราชินีภิเษก


องค์หญิงอิซาเบลล่าย่อกายลงจนเข่าทั้งสองข้างวางอยู่บนหมอนรองนั่งปักด้ายทองก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อให้นายกรัฐมนตรีเคลมเวลล์ได้สวมมงกุฏิลงบนพระเศียรพร้อมทั้งรับฟังคำสรรเสริญก่อนจะหยัดกายขึ้นยืนเพื่อถอดผ้าคลุมขนแกะที่สวมใส่อยู่ออกแล้วเปลี่ยนเป็นผ้าคลุมที่ถักทอจากผ้าไหมสีทองและขนเป็ดที่ทางราชสำนักเลี้ยงไว้เพื่อใช้ในการทำฉลองพระองค์ให้แก่สมาชิกราชวงศ์


พระราชพิธีดำเนินมาจนถึงพิธีตรัสคำปฏิญาณต่อรัฐสภาและประชาชนเพื่อเป็นองค์ราชินีแห่งราชอาณาจักรถูกต้องตามกฏมณเฑียรบาล แต่ก่อนที่พิธีจะดำเนินไปถึงพระราชพิธีจักรพรรดินีภิเษก บุคคลอันตรายและไว้ใจไม่ได้มากที่สุดรวมไปถึงการเป็นผู้ต้องสงสัยในการสิ้นพระชนม์ขององค์จักรพรรดิและองค์จักรพรรดินีพระองค์ก่อนอย่างนายกรัฐมนตรีเคลมเวลล์ก็ได้เอ่ยสิ่งที่ทำให้องค์ราชินีองค์ปัจจุบันอย่างองค์ราชินีอิซาเบลล่าเกือบเผลอหลุดชักสีหน้าไม่พอใจออกมาหากไม่ได้รับการเตือนจากราชองครักษ์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ


"พระอาญามิพ้นเกล้าฯ ข้าพระพุทธเจ้า พันตำรวจเอกกัสเต็น เคลมเวลล์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรอาดีซายาห์ มีเรื่องสำคัญที่ต้องกราบทูลให้พระองค์ทรงทราบพ่ะย่ะค่ะ" ท้องพระโรงที่ถูกจัดพระราชพิธีเงียบสนิทไม่มีใครพูดสิ่งใดออกมาเพราะต่างรอฟังในสิ่งที่นายกรัฐมนตรีของประเทศนี้จะพูด


"ตามกฏมณเฑียรบาลแห่งราชอาณาจักรอาดีซายาห์ข้อที่ 18 ว่าด้วยเรื่องการขึ้นครองราชย์ในฐานันดรองค์จักรพรรดินีแห่งราชอาณาจักร พระราชินีที่จะขึ้นดำรงฐานันดรศักดิ์จักรพรรดินีจักต้องมีพระชนมายุครบ 20 พรรษาบริบูรณ์ หรือจักต้องผ่านพระราชภิธีอภิเษกสมรสเสียก่อน" ทั้งท้องพระโรงเงียบสงัดเมื่อได้ฟังคำเอื้อนเอ่ยจากปากของนายกรัฐมนตรีที่คนในราชสำนักต่างรู้กันดีว่าชายแก่ผู้นี้ มีความต้องการที่จะยึดอำนาจ


"ด้วยเหตุนี้ พระราชพิธีจักรพรรดินีภิเษกจึงมิอาจจัดขึ้นได้จนกว่าองค์ราชินี สมเด็จพระราชินีอิซาเบลล่า อาร์เธอร์ ลอร่า อาดีซายาห์ จะมีพระชนมายุครบ 20 พรรษาบริบูรณ์หรือจนกว่าจะเข้าพระราขพิธีอภิเสกสมรสให้เรียบร้อยเสียก่อน ด้วยเกล้าฯด้วยกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พันตำรวจเอกกัสเต็น เคลมเวลล์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรอาดีซายาห์" พันเอกเคลมเวลล์โค้งศีรษะลงคำนับองค์ราชินีพระองค์ปัจจุบันหลังจากอ่านคำแถลงจากรัฐสภาสำเร็จโดยไม่เก็บซ่อนรอยยิ้มอย่างคนที่ถือไผ่เหนือกว่าเอาไว้ ต่างจากองค์ราชินีอิซาเบลล่าที่กำลังกำหมัดของตัวเองแน่นด้วยความโกรธ

เธอรู้ดีว่ามันเป็นกฏมณเฑียรบาล แต่ในเวลานี้การเอ่ยถึงกฏมณเฑียรบาลของนายกรัฐมนตรีเคลมเวลล์นั้นเป็นเพีบงข้ออ้างเพื่อจะจะยื้อเวลาไม่ให้เธอมีอำนาจไปมากกว่านี้ เพราะตราบใดที่ยังเป็นแค่องค์ราชินีรัฐสภาก็จะมีอำนาจเหนือเธอ แต่ถ้าหากได้ดำรงฐานันดรศักดิ์องค์จักรพรรดินีแล้วนั้น เธอจึงจะกลายเป็นบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดในประเทศนี้อย่างเต็มตัว


เธอโกรธ เธออยากจัดการชายแก่ตรงหน้า แต่สิ่งที่หล่อนทำได้ในตอนนี้คือการยอมรับในคำสั่งของรัฐสภาและส่งยิ้มให้กับประชาชนทุกคนที่อยู่ในท้องพระโรง


หลังจากพระราชพิธีในท้องพระโรงเสร็จสิ้นลง สิ่งต่อไปที่เธอต้องทำคือการออกไปยืนตรงบริเวณระเบียงของปราสาทและโบกมือพร้อมรอยยิ้มให้กับประชาชนของเธอทุกคนอย่างมีความสุข


เสียงตะโกนสรรเสริญ "Long live the queen" ดังสนั่นไปทั่วประเทศกับการขึ้นครองราชย์ขององค์ราชินี จนเธอเองก็รู้สึหอิ่มเอมใจที่ได้รับคำสรรเสริญจากประชาชนของเธอ แต่ทั้งนี้ เธอก็ต้องตระหนักถึงคำสอนของพระบิดาและพระมารดาที่ให้ไว้ว่าจะต้องไม่หลงไหลในอำนาจจนเกินไปและปกครองประเทศอย่างสุดความสามารถ พัฒนาประเทศให้ดียิ่งขึ้น เธอจำได้ขึ้นใจ และจะไม่มีทางลืมมันเด็ดขาด





4 ปีผ่านไปกับการดำรงฐานันดรศักดิ์องค์ราชินีแห่งราชอาณาจักรอาดีซายาห์ และ 2 ปีผ่านไปกับการดำรงฐานันดรศักดิ์องค์จักรพรรดินีแห่งราชอาณาจักรอาดีซายาห์


หากแปลกใจว่าเหตุใดองค์ราชินีที่ยังไม่อภิเษกสมรสอย่างเธอสามารถดำรงฐานันดรศักดิ์องค์จักรพรรดินีแห่งราชอาณาจักรได้ เธอก็สามารถบอกเช่นเดียวกันว่า


กฎมณเฑียรบาลที่เก่าคร่ำครึเกินไป ถ้าปรับแก้ไขได้ก็พึงกระทำ


อิซาเบลล่าแก้กฎมณเฑียรบาลของราชอาณาจักรเพื่อปรับให้เข้ากับโลกในปัจจุบันที่พัฒนาไปไกลเกินกว่าจะยึดปฏิบัติตามความคิดของคนแก่เมื่อ 400 ปีก่อน


ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้กฎมณเฑียรบาล ในช่งงแรกที่เธอและคนสนิททั้งสามคนช่วยกันแก้ไขกฏมนเฑียรบาบเธอเองก็ถูกคัดค้านและถูกต่อต้ายจากหลายๆฝ่าย แต่ก็นับเป็นโชคดี ที่เธอเผลอไปค้นเจอจดหมานของพระบิดาที่ต้องการจะส่งให้กับรัฐสภาถึงเรื่องการแก้ไขกฎมณเฑียรบาล แต่มันช่างน่าขัน ที่เธอบังเอิญไปพบจดหมายฉบับนี้ในห้องทำงานของนายกรัฐมนตรีเคลมเวลล์แทนที่จะเป็นจากหนึ่งในสมาชิกรัฐสภา


ราชินีอิซาเบลล่าส่งมอบพระราชหัตถเลขาของพระราชธิดาของเธอให้กับรัฐสภาเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าเธอสามารถแก้ไขกฎมณเฑียรบาลตามพระราชประสงค์ ยิ่งไปกว่านั้น หล่อนยังได้พบกับหลักฐานชิ้นสำคัญที่สามารถมัดตัวนายกรัฐมนตรีเคลมเวลล์ในข้อหาปลงพระชนม์องค์จักรพรรดิและองค์จักรพรรดินีแห่งราชอาณาจักรได้


เคลมเวลล์มีโทษประหารชีวิตรวมไปถึงบุคคลในครอบครัวทั้งหมด อาจดูโหดร้ายไป แต่กลับสิ่งที่ชายแก่คนนั้นได้กระทำลงไปก็ถือว่าสาสมแล้ว


ราชอาณาจักรอาดีซายาห์ในการปกครองขององค์จักรพรรดินีอิซาเบลล่าเป็นไปได้ดีกว่าที่ทุกคนคาดการณ์เอาไว้ ไม่มีใครคิดวาานโยบายบริหารประเทศของพระองค์จักรพรรดินีจะทำให้ค่า GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ) เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัวจากที่เป็นอยู่ คุณภาพชีวิตของประชาชนเองก็ดีขึ้นเนื่องจากสิทธิ์ในการรักษาพยาบาลและการศึกษาที่รัฐบาลและสำนักพระราชวังช่วยเหลือกันดูแลในเรื่องนี้ และเพราะประชาชนไม่ต้องกังวลในด้านค่ารักษาพยาบาลจำนวนมากในยามป่วยไข้รวมไปถึงค่าศึกษาเล่าเรียนของเหล่าบุตรหลาน ก็ทำให้พวกเขาสามารถโฟกัสในด้านการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ต้องกังวลหรือห่วงหน้าพะวงหลัง


แต่อย่างไรก็ตาม ชีวิตขององค์จักรพรรดินีอิซาเบลล่าก็ไม่ได้เรียบง่ายหรือราบรื่นนัก


บรรยากาศในรัฐสภา ณ เวลานี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด เกิดการถกเถีบงประเด็นสำคัญกันมาร่วม 3 ชั่วโมงแล้วก็มิอาจได้มาซึ่งข้อสรุปเสียทีจนบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดในประเทศนี้ชักเบื่อหน่าย


องค์จักรพรรดินีต้องเข้าร่วมประชุมหารือกับเหล่าสมาชิกรัฐสภาตั้งแต่ 9 โมงเช้า จนตอนนี้เวลาล่วงเลยมาแล้วถึง 3 ชั่วโมงแต่หล่อนก็ยังไม่ได้ความคืบหน้าจากประเด็นปัญหาที่เหล่าคนในรัฐสภากำลังถกเถียงกันอยู่


"พระอาญามิพ้นเกล้าฯ หลังจากที่ข้าพระพุทธเจ้าได้ถกเถียงถึงประเด็นนี้กันอย่างหนัก ข้าพระเจ้าและคณะรัฐมนตรีมีความเห็นพ้องกันกันว่า พระองค์จักรพรรดินีอิซาเบลล่า อาร์เธอร์ ลอร่า อาดีซายาห์ ทรงมีพระชนมายุครบ 22 พรรษา และได้ปกครองราชอาณาจักรอาดีซายาห์นี้เป็นอย่างดีจนเจริญรุ่งเรืองขึ้นต่อเนื่องจากที่อดีตองค์จักรพรรดิและองค์จักรพรรดินีได้ทำไว้ แต่ทั้งนี้ แม้นจะมีองค์จักรพรรดินีที่ทรงพระปรีชาสามารถ แต่บัลลังก์ที่สมบูรณ์แบบจำเป็นต้องมีทั้งองค์จักรพรรดิและองค์จักรพรรดินีคอยอยู่เคียงข้างกันเพื่อดูแลและพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป ดังนั้น ทางรัฐสภาจึงจงใคร่ขอกราบทูลว่าเพลานี้ เป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วที่พระองค์จักรพรรดินีจะมีพระราชภิธีอภิเษกสมรสกับบุรุษที่ที่มีความเหมาะสมตามกฎมณเฑียรบาลฉบับปรับปรุงแก้ไข ด้วยเกล้าฯด้วยกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า ศาสตราจารย์ด๊อกเตอร์อเล็กซานเดอร์ ลูอิส เอวาดอร์ ประธานรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรอาดีซายาห์"





หงุดหงิด สตรีผู้สูงศักดิ์กำลังรู้สึกหงุดหงิด หล่อนกลับจากการประชุมในรัฐสภาที่แสนยืดเยื้อด้วยความหงุดหงิดและไม่พอใจหลังจากที่มติจากรัฐสภามีความเห็นพ้องต้องกันให้หล่อนแต่งงานกับบุรุษที่เหมาะสมตามกฎมณเฑียรบาลฉบับแก้ไขที่หล่อนเป็นร่างมันขึ้นมาและเสนอต่อรัฐสภา


หญิงสาววัย 22 ปี สตรีผู้สูงศักดิ์เดินเข้าไปในห้องนอนส่วนตัวอย่างหงุดหงิดและไม่พอใจ 6 ปีมานี้เธอก็ได้แสดงให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าเธอสามารถปกครองประเทศให้เตริญรุ่งเรืองได้แม้จะปราศจากสามีเคียงข้างกาย แต่คนแก่หัวโบราณยังไงก็เป็นคนแก่หัวโบราณอยู่วันยังค่ำ เธออยากจะปฏิเสธ แต่ในเมื่อมันเป็นมติจากรัฐสภา หากเธอยังไม่อยากสูญเสียอำนาจและบัลลังก์ไป เธอก็จะต้องปฏิบัติตาม


แต่ใครกันล่ะ ที่จะเป็นบุรุษที่เหมาะสม


เพราะในชีวิตของเธอนอกจากพระบิดาที่สวรรคตไป ก็มีสามแฝดแห่งตระกูลนิวส์เบิร์กเท่านั้น


"ทรงกริ้วด้วยเหตุอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ พระพักตร์และพระขนงทรงยุ่งเหยิงเชียว" เพอร์เซอุส พระพี่เลี้ยงหรือคนที่คอยดูแลเธอมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าองค์เหนือหัวแสดงความไม่พอใจออกมาผ่านทางสีหน้าและอาการตีอกชกลมเมื่อเข้ามาในห้องนอนส่วนตัว


"เราก็ไม่ได้อยากจะหงุดหงิดหรอกนะเพอร์เซอุส แต่คนแก่พวกนั้นอยากให้เราแต่งงาน ซึ่งเธอก็รู้ดี ว่าเราไม่อยากแต่งงาน" ท่าทีเอาแต่ใจที่มักแสดงออกมาให้เพอร์เซอุสและพี่น้องฝาแฝดของเขาเท่านั้นได้เห็นถูกแสดงออกมาและเรียกรอยยิ้มจากเขาได้เป็นอย่างดี


"ข้าพระพุทธเจ้าเห็นว่าไม่เห็นมีอะไรเสียหายนะพ่ะย่ะค่ะ พระองค์มีพระชนมายุครบ 22 พรรษาแล้ว มันก็ไม่แปลกที่จะต้องอภิเษกสมรสกับบุรุษที่เหมาะสมสักคน"


"เอ๊ะ! ทำไมเธอไม่เข้าข้างเราล่ะเพอร์เซอุส แล้วนี่มาร์คัสกับรอยส์หายไปไหน เหตุใดจึงหายหน้าหายตาไปไม่ตามเรามาที่ห้องหลังจากกลับจากรัฐสภา" สตรีสูงศักดิ์เริ่มงอแงเอาแต่ใจ


"ข้าพระพุทธเจ้าอยู่แต่ในห้องบรรทมของพระองค์ มิอาจทราบได้ถึงความเป็นไปของพี่น้องของข้าพระพุทธเจ้าพ่ะย่ะค่ะ" เพอร์ว่าพลางโค้งคำนับ


"ใช้ไม่ได้ แต่เอาเถอะ เราอยากแช่น้ำ วันนี้เราเหนื่อย ต้องไปนั่งเกร็งหน้าอยู่ในสภาตั้ง 3 ชั่วโมง" อิซาเบลล่าถอนหายใจพร้อมกับบอกความต้องการของเธอให้กับพี่เลี้ยง


"ข้าพระพุทธเจ้าจะไปเตรียมน้ำไว้ให้ ไม่ทราบว่าพระองค์ประสงค์กลิ่นครีมสรงน้ำกลิ่นไหนพ่ะย่ะค่ะ"


"ขอเป็นกลิ่นกุหลาบกับวนิลาก็แล้วกัน"


"ทรงประทับรอสักครู่ ข้าพระพุทธเจ้าจะไปเตรียมน้ำไว้ให้พ่ะย่ะค่ะ"


อิซาเบลล่าพยักหน้าให้กับชายหนุ่มที่โค้งคำนับก่อนที่หล่อนจะเดินไปนั่งบริเวณโซฟานุ่มขนาดใหญ่ที่จัดวางไวเในบริเวณห้องนั่งเล่นที่แยกส่วนออกจากห้องนอนของเธออีกที


ร่างงามหย่อนกายลงนั่งก้มตัวลงเพื่อถอดรองเท้าส้นสูงกว่า 6 นิ้วของเธอออก จริงอยู่ที่หน้าที่นี้เป็นหน้าที่ของพระพี่เลี้ยงหรือเด็กรับใช้ แต่เพราะเธอไม่ไว้ใจใคร หน้าที่นี้จริงเป็นหน้าที่ของเพอร์เซอุสพระพี่เลี้ยงของเธอ แต่เธอก็ไม่ได้สะดวกสบายจนเคยตัวที่จะถอดรองเท้าให้ตัวเองไม่เป็น


เว้นเสียแต่ชุดเดรสรัดรูปช่วงลำตัวและสยายยาวกรอมเท้าสีแดงเลือดนกแขนยาวโชว์เนินอกอวบ ไหปลาร้าสวยและไหล่มนให้ประจักแก่สายตาของคนที่เธอไปพบเจอเท่านั้นที่วันนี้เธอจะไม่ถอดด้วยตัวเอง 


เธอไม่ใช่คนหวงเนื้อตัว กลับกันหากไม่ติดว่าเธอเป็นจักรพรรดินี เธอก็อยากใส่แค่เสื้อเกาะอกที่ปิดเฉพาะบริเวณหน้ากับกับกางเกงขาสั้นที่ปิดก้นไม่หมดกับรองเท้าผ้าใบเพียงเท่านั้น แต่เพราะเธอเป็นจักรพรรดินีการแต่งกายแบบนั้นจึงไม่อาจทำได้ สิ่งที่ทำได้คือการเปิดเล็กเปิดน้อยที่มักจะได้รับสายตาเตือนแกมดุจากสามแฝดของเธอเท่านั้น


"น้ำพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ"


อิซาเบลล่าเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นก่อนจะยกยิ้มุมปากด้วยความพอใจเมื่ออีกฝ่ายเดินกลับมาในสภาพไร้สูทตัวนอก เนคไทถูกถอดออกเช่นเดียวกันกับกระดุมคอของเสื้อเชิ้ตสีขาวแบบบอดี้ฟิตที่แนบไปกับลำตัวที่ต่อให้มองผ่านเนื้อผ้าก็รับรํได้ถึงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่อยู่ภายใน ไหนจะเส้นเลือดที่เห็นอย่างชัดเจนตามลำแขนแกร่งทั้งสองข้างเมื่อแขนเสื้อถูกพับขึ้นไปอยู่บริเวณข้อศอก


เห็นทีว่าวันนี้นอกจากจะแช่น้ำแล้วเธอคงต้องทำอย่างอื่นเพิ่มเพื่อผ่อนคลายตัวเองจากความเครียดอีกเสียหน่อย


_____________________________________________

เนื้อหาต่อจากนี้มีความไม่เหมาะสมในเรื่องเพศที่ค่อนข้างจะรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน



อิซาเบลล่าหยัดกายยืนขึ้นแล้วเดินไปยังห้องน้ำโดยมีร่างสูงของพี่เลี้ยงคนสนิทเดินตามไปติดๆจนหยุดอยู่หน้ากระจกขนาดใหญ่บริเวณเคาน์เตอร์ภายในห้องน้ำ


"เช็ดเครื่องสำอางก่อนไหมพ่ะย่ะค่ะ"


สตรีสูงศักดิ์ส่ายหน้าเป็นคนตอบก่อนจะย่างกรายเข้าไปหาชายหนุ่มอายุ 30 ต้นๆที่กำลังเป็นวัยกลัดมันได้ที่ เจ้าหล่อนจงใจบดเบียดหน้าอกของเธอเข้ากับแผงอกกำยำของร่างสูงพร้อมกับคว้ามือแกร่งให้เอื้อมไปด้านหลังเพื่อทำการรูดซิปชุดที่เธอกำลังสวมใส่อยู่ออกอย่างช้าๆโดยที่ใบหน้างดงามแสดงสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากอย่างนึกสนุกในการกระทำของสตรีสูงศักดิ์ตรงหน้าโดยที่มือหนาก็ค่อยรูดซิปเดรสรัดรูปสีแดงเลือดนกลงสุด และเพราะเป็นชุดที่โชว์หน้าอก ไหปลาร้าและไหล่มน เมื่อไม่มีตัวยึดเหนี่ยวบริเวณด้านหลัง ส่วนด้านหน้าที่ใช้ปกปิดหน้าอกขนาดใหญ่ก็ร่นลงเผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มขนาดใหญ่เต็มมือที่มีเพียงแผ่นปิดยอดอกเท่านั้นปกปิดไว้ปรากฏแก่สายตา


ร่างสูงปล่อยให้ชุดเดรสของสตรีตรงหน้าไหลร่วงลงไปกองบนพื้นก่อนที่จะค่อยๆย่อกายลงนั่งคุกเข่าจนใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกันกับหน้าท้องแบนราบแล้วยื่นมือไปเกี่ยวกางเกงชั้นในตัวบางของหญิงงามหน้าออกจนหลุดพ้นขาเรียวสวยไป ปต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้หยัดกายยืนขึ้นอีกครั้ง ขาเรียวสวยของหญิงสาวก็เขย่งขึ้นโดยใช้ขาเรียวข้างขวายกขึ้นวาดพาดไว้บนไหล่แกร่งจนอวัยวะลับกลางกายอยู่ในระดับเดียวกับใบหน้าคมคาย


"รู้นะว่าต้องทำยังไงเราถึงจะมีความสุข"


เพียงเท่านั้น ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะกดริมฝีปากลงไปบนเนินเนื้อลับในร่มผ้าที่สะอาดสะอ้านไร้ขนอ่อนปกคลุมบวกกับกลิ่นหอมอ่อนๆจากครีมอาบน้ำเมื่อตอนเช้าที่ยังคงเหลืออยู่ ลิ้นร้อนถูกส่งออกไปเล้าโลมตรงส่วนนั้นจนมีน้ำหวานไหลออกมาจนร่างสูงใช้ลิ้นวาดเลียน้ำหวานจากดอกไม้ที่เริ่มผลิบานออกจากการกระทำของชายหนุ่มเข้าปากแล้วกลืนลงไป ร่างสูงใช้ลิ้นกวาดเลียน้าหวานอยู่แบบนั้นซ้ำๆโดยไม่ได้สนใจเสียงร้องครวญครางแทบขาดใจของหญิงสาวเจ้าของดอกไม้งามที่ตนกำลังดูดกินน้ำหวานอย่างเอร็ดอร่อย เขาทำแบบนั้นจนเมื่อรู้สึกได้ถึงความสั่นของขาเรียวอย่างคนหมดแรง เพอร์เซอุสจึงละใบหน้าออกจากดอกไม้งามหน้าแล้วดันร่างของเจ้าของดอกไม้ให้ไปติดกับเคาน์เตอร์อ่างล่างหน้าที่อยู่บริเวณด้านหลังเพื่อคอยช่วยพยุงไม่ให้เจ้าหล่อนต้องทรุดฮวบลงไป


"อ๊า อย่างนั้น"


หญิงสาวหลุดเสียงหวีดร้องเมื่อลิ้นร้อนของชายตวัดเลียตุ่มไวต่อสัมผัสระรัวจนต้องยื่นมือไปกดศีรษะของร่างสูงให้แนบชิดกับส่วนนั้นของเธอมากยิ่งขึ้นในขณะที่เธอเองก็บดเบียดกายให้รับกับเรียวลิ้นร้อนด้วยเช่นกัน


"ให้ตายเถอะ อ๊า เธอทำให้เราไม่อยาก อ๊ะ มีสามีนะ อ๊า!"


อิซาเบลล่าพูดออกมาสลับกับเสียงครางกระเส่าอย่างมีความสุขจสกสัมผัสที่ได้รับจากชายหนุ่มที่คึกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอ ก่อนที่จะสะดุ้งตัวโยนแขม่วท้องด้วยความเสียวกระสันเมื่อเรียวลิ้นร้อนของร่างสูงสอดเข้าไปในช่องทางของเธอแล้วตวัดลิ้นเลียดูดกลืนน้ำหวานสลับกับชักเข้าออก


คำสบถแสนหยายคายหลุดออกมาจากปากของสตรีสูงศักดิ์ที่หากเป็นเวลาอื่นคงโดนต่อว่าไปแล้ว แต่ในเวลานี้ เสียงครางด้วยความกระสันและคำสบถแสนหยาบคายที่ถูกเปล่งออกมามันยิ่งทำให้อารมณ์ของชายหนุ่มยิ่งพุ่งสูงขึ้น มีเรียวสวยอีกข้างที่ว่างจิกลงบนเคาน์เตอร์เพื่อระบายความเสียวจนขึ้นข้อข้าวขาวแต่ก็ไม่เป็นผล เธอจึงยกมือขึ้นแล้วดึงแผ่นซิลิโคนที่ใช้ปิดยอดอกของเธอออกแล้วบีบแค้นคลึงสลับกับสะกิดยอดอกที่ตั้งตรงระรัวเพื่อหวังจะแบ่งเบาความเสียวจากส่วนกลางกลายมาได้บ้าง แต่เธอกลับคิดผิด เพราะแม้ว่ามันจะช่วยแบ่งเบาความเสียวจากส่วนกลางกายของเธอไม่ได้แล้วนั้น มันยิ่งทำให้อารมณ์ของเธอพุ่งสูงขึ้น


"อย่าเพิ่งไปนะพ่ะย่ะค่ะ ช่วยอดทนอีกนิด"


ร่างสูงละริมฝีปากออกมาเอ่ยห้ามก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปอีกครั้ง


"อื้อ เราไม่ไหวแล้ว เพอร์ซ อ๊า เราไม่ไหว"


หญิงสาวกระตุกกายสองสามครั้งพร้อมกับที่น้ำหวานจำนวนมากไหลออกมาจากส่วนนั้นจนไหลเปรอะไปตามคางและลำคอแกร่งของเจ้าของลิ้นร้อนที่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดขยับลิ้นร้อนนั่นเสียที กลับกันชายหนุ่มกลับสอดนิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วนางเข้าไปภายในพร้อมกับทั้งสามนิ้วแล้วขยับเข้าออกเป็นจังหวะเดียวกับลิ้นร้อนที่กำลังขยับเข้าออกอยู่เช่นเดียวกัน


เสียงหวีดร้องของหญิงสาวที่เกิดจากความกระสันจากการกระของของร่างสูงดังสนั่นไปทั่วห้องน้ำและคงดังออกไปถึงนอกห้องจนประตูห้องน้ำถูกผลักเข้ามาอย่างแรงด้วยฝีมือของราชเลขาฯ แต่เมื่อเห็นว่าต้นต่อของเสียงหวีดร้องเกิดจากอะไร ราชเลขาฯก็ทำเพียงส่งยิ้มให้แฝดน้องของตนแล้วปิดประตูห้องน้ำเพื่อไปนั่งรอให้ห้องนั่งเล่นที่อยู่ในห้องบรรทมขององค์จักรพรรดินีของเขาตามเดิม


มันยังไม่ถึงเวลา


"มะ... มาร์คัสหรอ"


ไร้เสียงตอบรับจากร่างสูงที่กำลังง่วนอยู่กับการดูดกินน้ำหวานจากส่วนนั้นของเธอ อิซาเบลล่ารู้สึกขัดใจที่อีกฝ่ายไม่ตอบคำถามจึงออกแรงขยำกลุ่มผมหนาแล้วดึงศีรษะของร่างสูงให้ออกห่างจากส่วนนั้นของเธอ


"พ่ะย่ะค่ะ นั่นมาร์คัส"


ชายหนุ่มเอ่ยตอบแก่หญิงสาวโดยที่มือของเขาก็ยังคงขยับเข้าออกในช่องทางที่เต็มไปด้วยน้ำหวานที่เขาดูดกินเท่าไรก็ไม่หมดจนตอนนี้ท่อนแขนของเขามีน้ำหวานจากดอกไม้งามไหลเปรอะเปื้อนเป็นทางยาวไปถึงข้อศอก


เพอร์เซอุสทำท่าจะโน้มใบหน้าลงไปที่ส่วนนั้นอีกครั้งกลับถูกมือเรียวคว้าคอเสื้อทางด้านหน้าของเขาแล้วออกแรงให้ยืนเขาขึ้น นิ้วเรียวสามนิ้วที่อยู่ในช่องทางเปียกเยิ้มหยุดนิ่งแต่แล้วก็ต้องขยับต่ออีกครั้งเมื่อเจ้าของช่องทางฉ่ำน้ำนั้นชักสีหน้าอยสกขีดใจ


"ขยับต่อไป" เจ้าหล่อนว่าพลางยกขาข้างขวาขึ้นเกี่ยวสะโพกสอบจนร่างสูงต้องสอดมือเข้าไปรองตรงข้อพับขาเพื่อช่วยพยุงไม่ให้คนตัวเล็กล้มลงไป


"เร็วอีก อื้อออ" หญิงสาวเอ่ยเร่งเมื่อตนใกล้ถึงปลายทางอีกครั้ง ในขณะที่มือเรียวสวยออกก็ไม่อยู่เฉยๆเลื่อนลงไปปลดเข็มขัดหนังและกระดุมกางเกงสแลคออกแล้วจึงรูปซิปกางเกงลงเผยให้เห็นถึงความแข็งขืนที่ขยายตัวใหญ่อยู่ภายในกางเกงชั้นในยี่ห้อดัง


หญิงสาวไม่รอช้าล้วงมือเข้าไปคว้าแกนกายขนาดใหญ่ที่ร้อนผ่าวด้วยความกระสันแล้วชักรูดขึ้นลงอย่างถี่รัวจนร่างสูงต้องหลับตาสูดปากผ่อนลมหายใจเข้าออกแรงๆ


"พะ... เพอร์ซ ใส่เข้า... อ๊ะ มา" เมื่อใกล้ถึงจึดหมายเต็มที่ ร่างบางจึงเร่งให้ชายหนุ่มสอดใส่แกนกายร้อนระอุของเจ้าตัวเข้าไปในร่างกายของเธอ


"มิได้พ่ะย่ะค่ะ ข้าพระพุทธเจ้าต้องไปเอาถุงยางอนามัยก่อน"


"ล้อเล่นหันหรือยังไง" 


"หามิได้พ่ะย่ะค่ะ เพื่อความปลอดภัย"


"เราฝังยาคุมกำเนิดแล้ว" อิซาเบลล่าเริ่มหงุดหงิดที่ชายหนุ่มตรงหน้าไม่ยอมใส่แกนกายของเขาเข้าไปในร่างกายของเธอเสียทีมัวแต่ปฏิเสธและขัยบนิ้วเข้าออกอยู่แบบนั้นจนเธอจะถึงจุดหมายอีกครั้งอยู่รอมร่อ


"ถึงอย่างนั้นก็เถอะพ่ะย่ะค่ะ" น่างสูงยังคงปฏิเสธที่จะร่วมเพศกับหญิงสาวโดยปราศจากเครื่องป้องกันอยู่ดี


"ให้ตายเถอะ อ๊ะ เพอร์ซี่... มาถึง อ๊ะ ขนาดนี้และ... แล้ว เราคงไม่ให้เธอเดินออกไปเอาถุงยางอนามัยหรอกนะ" หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะเอื้อมมือไปกุมข้อมูลแกร่งที่ยังคงขยับเข้าออกอย่างถี่รัวเอาไว้แล้วกระชากออกอย่างแรงก่อนจะจับแกนกายใหญ่โตที่ร้อนระอุสอดเข้าไปในช่องทางของเธอพร้อมกับออกแรงบังคับให้ร่างสูงลงนั่งพื้นโดยประคองไม่ให้แกนกายร้อนหลุดออกจากส่วนนั้นของเธอ


เมื่อร่างสูงลงนั่งบนพื้นเรียบร้อยแล้ว อิซาเบลล่าขยับกายขึ้นคร่อมหน้าตักแกร่งแล้วออกแรงบังคับให้ชายหนุ่มเอนกายลงนอนราบไปกับพื้นห้องน้ำ มือเรียวถูกส่งไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเนื้อดีออกอย่างเร่งรีบไปพร้อมกับที่กำลังขมิบห้องทางถี่รัวเพื่อขับน้ำหล่อลื่นออกมาช่วยลดแรงเสียดสี


"ทำไมทรงดื้อรั้นขนาดนี้ล่ะพ่ะย่ะค่ะ อา..." เมื่อรู้ว่าจะต้องถูกบ่นถูกดุเป็นแน่ อิซาเบลล่าจึงโน้มกายใช้ลิ้นเลียหน้าท้องแกร่งที่เป็นลอนกล้ามเนื้อเรียงตัวสวยงามช้าๆขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงยอดอกแข็งขืนจึงใช้เรียวลิ้นเลียวนรอบฐานแล้วตวัดลิ้นเขี่ยตุ่มไตแข็งสลับกันไปมาทั้งสองข้างโดยที่ช่องทางด้านล่างก็เริ่มขยับขึ้นลงอย่างเนิบนาบ จวบจนนึกพอใจกับยอดอกทั้งสองลิ้นเล็กที่ลากลิ้นเลียต่อไปที่ลำคอแกร่ง ริมฝีปากที่ถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงชาดขบเม้มลำคอแกร่งเบาๆอย่างหยอกล้อจนเมื่อปรากฏรอยแดงจางๆเต็มลำคอแกร่งร่างบางจึงพอใจแล้วขยับริมฝีปากไล่จูบไปเรื่อยตามแนวบ่า และด้วยความมันเขี้ยว คันฟัน เธอจึงได้ฝังฟันสวยมีมีฟันเขี้ยวเล็กลงไปบนไหลแกร่งอย่างเต็มแรง แต่เพอร์เซอุสก็ไม่ได้ปล่อยให้ตนเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวเพราะในขณะที่คนตัวเล็กกัดเข้าที่ไหล่ของเขา มือข้างขวาเยาก็ไม่อยู่เฉยๆออกแรงฟาดลนไปบนสะโพกกลมกลึงแน่นมือเสียเต็มแรงจนร้องบางหลึดร้องออกมา


"ซนใหญ่แล้วนะพ่ะย่ะค่ะ ถ้ายังซนอยู่อบบนี้กระหม่อมจะไม่ยอมให้พระองค์ทำต่อนะพ่ะย่ะค่ะ" เพอร์เซอุสเอ่ยอย่างคาดโทษ แต่เด็กซน อย่างไรเสียก็ยังคงเป็นเด็กซน ที่แม้ภายนอกจะเป็นองค์จักรพรรดินีที่สง่างาม น่าเคารพยกย่อง แต่เมื่ออยู่กับคนสนิทแบบเขาแล้ว นอกใบหน้าที่งดงามก็ไม่เหลือเค้าความเป็นองค์จักรพรรดินีอีกเลย


"บ่นเก่งเสียจริง" หล่อนจิ๊ปาก


"เบลล่า พี่บอกว่าอย่าจิ๊ปาก มันไม่งาม" 


"พี่จะอะไรกับเรานักหนา สิ่งที่เราทำอยู่กับพี่มันก็ไม่งามแล้ว กะอีแค่จิ๊ปาก พี่จะบ่นเราทำไม" เด็กดื้อยังไงเสียก็ยังเป็นเด็กดื้อ


"ก็ถ้ารู้ว่ามันไม่งาม เราออกลึกออกไปจากตัวพี่แล้วไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้" เพอร์เซอุสเอ่ยเสียงแข็งอย่างหงุดหงิดที่คนที่เขาดูแลมาตั้งแต่เด็กไม่ยอมเชื่อฟัง


"เรื่องอะไรล่ะ" หญิงสาวสะบัดหน้าหนี กอดอกเชิดหน้าแสดงท่าทีพยศที่เพอร์เซอุสเห็นแล้วอยากจะตีก้นขาวๆนั้นอีกสักทีสองที แต่ก็ต้องเห็บมือไปเสียเมื่อคนตัวเล็กที่กำลังครอบครองแกนกายขนาดใหญ่โจตามมาตรฐานชายฝั่งโลกตะวันตกเริ่มขยับกายขึ้นลงอย่างรัวเร็วเพราะความขุ่นมัวในใจที่ถูกดุ


"อา... เบลล่า" 


"อะไรอีก... อ๊า ล่ะ พี่จะ อ๊ะ ดุอะไรเราอีก อื้อออ..." หญิงสาวเอ่ยด้วยความน้อยใจที่ปะปนด้วยเสียงคราง


"ทำดีๆ ถ้าของพี่หักขึ้นมาจะทำยังไง" ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงสลับกับสูดปากส่งเสียงครางด้วยความเสียว


"ใครสนกันล่ะ พี่มาร์ตัสก็มี พี่รอยส์ก็มี" คำตอบที่แสนร้ายกาจแต่น่าเอ็นดูของหญิงสาวทำให้เพอร์เซอุสหลุดยิ้มออกมา และพยายามดันกายขึ้นเพื่อพลิกร่างของหญิงสาวให้ลงไปนอนราบกับพื้นแทน


"หยุดเลยนะ เกมนี้เราคุมเอง" ร่างบางออกแรงกดให้พี่ชายคนสนิทที่เลี้ยงเธอมานอนลงไปกับพื้นตามเดิมแล้วออกแรงขยับขึ้นลงให้ถี่เร็วยิ่งขึ้น หน้าอกเต่งตึงขนาดใหญ่กระเพื่อมขึ้นลงจนคงที่มองอยู่อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปบีบเค้นความนุ่มนิ่มและเต่งตึงเต็มไม้มือจนขึ้นรอยมือ


"เรา อ๊า! มะ... ไม่ไหว อ๊ะ! อ๊า! และ... แล้ว" ร่างบางขยับกายขึ้นลงจนหัวโยกหัวคลอน ช่องทางฉ่ำน้ำก็บีบขนิบแกนกายใหญ่โตถี่รัวจนชายหนุ่มเองก็เริ่มที่จะไม่ไหวแล้วเช่นกัน


"เบลล่า ยกตัวขึ้น อา..." ร่างสูงสอดมือเข้าไปรองใต้สะโพกเพื่อยกร่างของหญิงสาวออกก่อนที่เข้าจะกักเก็บเชื้อพันธุ์เอาไว้ไม่ไหวจนฉีกเข้าไปภายในร่างกายของอีกฝ่าย แตาเจ้สหล่อนกลับไม่ยอมให้ความร่วมมือที่นอกนากยะไม่ลุกออกตามแรงยกของเขาแล้วยังปัดมือ้ขาออกอีก


"เบล! อย่าดื้อ!" เพอร์เซอุสเอ่ยเสียงแข็งอีกครั้งด้วยความขัดใจที่อีกคนไม่ยอมฟังในสิ่งที่เข้าสั่ง


"เงียบน่า"


"เบล! อะ อา!!!!"


"อื้อ พี่เพอร์ซ อื้ออออ"


เพอร์เซอุสและอิซาเบลล่ากระตุกตัวเกร็งพร้อมกันเมื่อในที่สุดพวกเขาก็ถึงจุดหมาย และใช่ ชายหนุ่มถอนแกนกายออกจากช่องทางของคนตัวเล็กไม่ทันจนต้องพ่นฉีดเชื้อพันธุ์เข้าไปจนหมดทุกหยาดหยด


คนตัวเล็กนั่งหอบหายใจตัวโยนอยู่บนตัวของชายหนุ่มโดยที่ยังมีแกนกายร้อนระอุกที่ยังคงกระตุกอยู่เล็กน้อยคาอยู่

"ก็แค่นี้ พี่จะอะไรนักหนา เราฝังยาคุมกำเนิดแล้ว"


"ทำไมคิดอะไรตื้นๆแบบนี้ แล้วถ้าเราพลาดขึ้นมาล่ะ คิดไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากคนเขาพูดกันว่าองค์จักรพรรดินีทรงตั้งพระครรภ์ทั้งๆที่ยังไม่ได้อภิเษกสมรส เคยคิดบ้างไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น" 


"เราก็แค่บอกไปว่าเราท้องกับพี่ก็แค่นั้น"


"เบล! พี่ไม่ได้เลี้ยงให้เธอโตมาเป็นคิดอะไรตื้นๆแบบนี้!" ร่างสูงขึ้นใส่คนที่กำลังนั่งครอบครองแกนกายเขาไม่ยอมขยับไปไหน"


"ฐานันดรศักดิ์องค์จักรพรรดินีที่เราพยายามจนเลือดตาแทบกระเด็นกว่าจะได้มาจะหายไปในชั่วพริบตาที่ราพูดแบบนี้ออกไป เราดื้อ เราซน แต่เราก็ยังน่ารัก แต่กับเรื่องนี้ พี่ผิดหวังในตัวเรามากนะเบล ลุกออกไปจากตัวพี่แล้วหปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย มาร์คัสมีเรื่องจะคุยกับเราอยู่"


หญิงสาวค่อยๆยันกายขึ้นจากตักแกร่งจนแกนกายร้อนที่อยู่ภายในส่วนนั้นของเธอหลุดออกมาพร้อมกับเชื้อพันธุ์ที่ไหลตามเรียวขาออกมาด้วย อิซาเบลล่าเดินไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำทำทีว่าเดินหปยังอ่างน้ำวนที่ถูกเตรียมไว้ร่วม 30 นาที แต่ก็เปลี่ยนใจรีบวิ่งออกไปนอกห้องน้ำเพื่อไปหาคนสนิทของเธออีกคนหนึ่งโดยไม่ได้สนใจคนที่กำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ในห้องน้ำแม้แต่น้อย


"สรงน้ำเสร็จแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ" มาร์คัสเอ่ยถามองค์เหนือหัวที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำแค่ตัวเดียวหลังจสกโค้งคำนับอีกฝ่ายเสร็จ


"เรายังไม่ได้อาบ" อิซาเบลล่าส่ายหน้าปฏิเสธ


"พระองค์ต้องทรงงานอีกเยอะนะพ่ะย่ะค่ะ" มาร์คัสเอ่ยยิ้มๆแต่แววตาไม่ได้ยิ้มตาม


"เรายังไม่อยากอาบ"


"ถ้าอย่างนั้นก็ทรงสวมใส่ฉลองพระองค์ให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะข้าพระพุทธเจ้ามีงานให้พระองค์ทรงงานเยอะแยะเลยพ่ะย่ะค่ะ"


"ไม่เอาหรอก เรายังไม่ได้อาบน้ำเลย" หญิงสาวเริ่มซนอีกครั้ง ขาเรียวที่นั่งขึ้นนั่งไขว้ขาถูกขึ้นจนปลายเท้าสะกิดเข้าที่ส่วนกลางกายที่สัมผัสได้ถึงความแข็งขืนและร้อนระอุผ่านกางเกงเนื้อผ้าชั้นดีของชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนตรงหน้า ในขณะเดียวกัน ขาเรียวที่โผล่พ้นออกมาจากชุดคลุมอาบน้ำก็ทำให้ร่างสูงยกยิ้มมุมปากเมื่อได้เห็นเข้าน้ำสีขาวขุ่นที่เจารู้ดีว่ามันคืออะไร


"ซนอีกแล้วสินะพ่ะย่ะค่ะ" ร่างสูงถอนหายใจแล้วโน้มกายลงเพื่อช้อนกายหญิงสาวที่เข้าเห็นมาตั้งแต่เยาว์วัยขึ้นแนบอกแล้วตรงไปยังห้องนอนของอีกฝ่าย


มาร์คัสวางร่างบางลงนั่งบนเตียงนอนหลังกว้าง ก่อนจะค่อยๆถอดสูทตัวนอกออกไปโยนไว้ตรงพื้นที่ว่างข้างคนตัวเล็กที่นั่งเตะขาอย่างสนุกสนาน ก่อนจะปลดกระดุมข้อมือแล้วพับแขนเสื้อขึ้นทั้งสองข้างในขณะที่เท้าเรียวสวยเองก็ยกขึ้นมาถูไถที่จุดกลางกลายของตน


"อ้าพระเพลาออกพ่ะย่ะค่ะ" 


มาร์คัสว่าพลางย่อกายลงนั่งคุกเข่าตรงระหว่างขาเรียวที่อ้าออกกว้าง มือแกร่งยื่นไปจับสะโพกออกแรงดึงให้ร่างบางขยับมานั่งตรงขอบเตียง ชุดคลุมอาบน้ำถูกแหวกออกเผยให้เห็นอวัยวะกลางกายของหญิงสาวที่ปิดไม่สนิทและมีสีแดงสดจากการเสียดสีรวมไปถึงมีคราบน้ำสีขาวขุ่นคั่งค้างอยู่


"แบบนี้ไม่เรียกซนแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ แบบนี้เรียกดื้อ ระวังจะโดนน้องชายของข้าพระพุทธเจ้าโกรธเอานะพ่ะย่ะค่ะ"

มาร์คัสพูดยิ้มๆพร้อมกับกดขาเรียวทั้งสองข้างให้อ้าออกกว้างจนเห็นช่องทางสีสดชั้นเจนแล้วจึงสอดนิ้วชี้และนิ้วกลางเข้าไปกวาดวนไปทั่วช่องทางฉ่ำน้ำ


"อ๊ะ! ไม่ทะ... ทันและ... แล้ว อ๊ะ! เราโดน อื้อ กะ... โกรธแล้ว" 


ร่างบางครางกระเส่าบิดกายไปตามจังหวะกวาดนิ้วของชายหนุ่มร่างสูงที่จดจ้องอยู่ตรงส่วนนั้นของเธอที่มีน้ำเชื้อพันธ์ของชายอื่นที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องชายของเขาคั่งค้างอยู่จนเธอรู้สึกละอายเล็กน้อย


"แล้วรู้ตัวหรือไม่พ่ะย่ะค่ะว่าข้าพระพุทธเจ้าก็กำลังจะโกรธพระองค์ที่เล่นซนเป็นเด็กไม่รู้จักโตเช่นนี้" 


มาร์คัสด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มแต่กลับตรงข้ามกับแววตาที่ดุดันและการกระทำที่กระชากนิ้วเรียวออกจากช่องทางของหล่อนอย่างรุนแรง


นิ้วเรียวทั้งสองที่น้ำเชื้อสีขาวขุ่นเกาะอยู่กำลังจะถูกเช็ดด้วยผ้าสะอาด แต่กลับถูกโพรงปากอุ่นร้อนครอบครองเสียก่อน ลิ้นเล็กดูดเลียกนิ้วเรียวยาวทั้งสองนิ้วจองมาร์คัสจนสะอาดพอให้มาร์คัสได้สอดนิ้วเข้าไปในช่องทางสีสดของเจ้าหล่อนเพื่อกวาดเอาเชื้อพันธุ์ออกมาใส่เข้าไปในปากของร่างบางอยู่ 4 - 5 ครั้ง จึงจะหมด


"เราขอโทษ เราจะไม่ทำอีกแล้ว แต่ตอนนี้เธอช่วยเราหน่อยได้ไหม"


"สิ่งใดกันพ่ะน่ะค่ะ"


"แค่นิ้วของเธอมันยังไม่พอ ช่วยใส่ของเธอเข้ามาในตัวเราได้ไหม"


สิ้นสุรเสียงมาร์คัสเพียงถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมดทุกชิ้นโดยในครั้งนี้เข้าไม่ยอมให้คนตัวเล็กได้ทำตามใจชอบเหมือนดั่งที่ทำกับน้องชายของเขา อุปกรณ์ป้องกันถูกสวมลงไปบนแกนกายที่ปวดหนึบจากการทนฟังเสียงร่วมเพศจากสตรีตรงหน้าและน้องชายของเขาอยู่ร่วมครึ่งชั่วโมง


แกนกายร้อนถูกใส่เข้าไปในช่องทางที่ได้รับการเบิกทางจากน้องชายของเขาไว้ก่อนแล้ว การร่วมเพศในครั้งนี้จึงไม่มีความอ่อนโยน เพร่ะหลังจากที่กดแกนกายเข้าไปจนสุด มาร์คัสก็รีบขยับกายเข้าออกอย่าถี่รัวไม่สนใจเสียงร้องขอให้ช้าลงจากคนใต้ร่างที่นอกจากจะเสียวแล้ว เจ้าหล่อนยังรู้สึกเจ็บจากการเสียดสีที่รุนแรงและจุกจากการที่แกนกายเข้าไปลึกจนเกินไป


ร่างบางพยายามขยับถอยหนีจากแรงกระแทกของร่างสูงตรงหน้าแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะเมื่อขยับถอยไปได้เพียงนิด ร่างทั้งร่างก็ถูกกระชากเข้าหาร่างสูงจนแกนกายใหญ่เข้าหปลึกยิ่งกว่าเดิมจนเธอจุกจนร้องไม่ออก


"คราวหน้าคราวหลังพวกพี่ห้ามอะไรก็รู้จักฟังและปฏิบัติตาม อา... ไม่ใช่นึกแต่จะเล่นซน อะ... โตแล้ว... เป็นองค์จักรพรรดินีของประเทศ จะทำตัวคิดตื้นๆแบบนี้ไม่ได้"


มาร์คัสกระแทกกระทั้นกายเข้าออกอย่างรุนแรงอีกสองสามครั้งก็รู้สึกได้ถึงแรงบีบรัดจากช่องทางสีสดและการกระตุกตัวสองสามครั้งของร่างบางก็รับี้ได้ว่าเจ้าตัวถึงจุดหมายแล้ว เจาจึงรีบเร็วความเร็วในการขยับกายกระแทะกระทั้นเข้าออกอยู่อีกประมาณหนึ่งนาทีก็รีบชักแกนกายออกจากช่องทางสีสด รูดถุงยางอนามัยออกแล้วกดแกนกายเข้าไปในโพรงปากอุ่นฉีดพ่นเชื้อออกมาจำนวนมากจำบางส่วนไหลล้นออกตามตามมุมปาก


"เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้กระทำรุนแรงต่อองค์จักรพรรดินีเช่นนี้" เสียงทุ้มที่เต็มไปด้วยความตกใจจากราชองครักษ์ดังขึ้นเมื่อได้เข้ามาเห็นการกระทำของพี่ชายตัวเองกับองค์จักรพรรดินี


"เด็กดื้อก็ต้องถูกลงโทษ ถึงตานายแล้ว รีบทำเสีย น้องน้อยของพวกเรายังมีงานอีกเยอะให้ทำ" มาร์คัสเอ่ยกับน้องชายคนสุดท้องพร้อมกับส่งถุงยางอนามัยไปให้


"เดี๋ยวก่อน นี่มันหมายความว่ายังไง นายจะบอกว่าเบลล่าไปเล่นซนอย่างนั้นหรือ ได้ยังไงกัน กลับจากรัฐสภาฉันก็พาน้องมาส่งที่นี่" รอยส์ค้านอยากไม่เชื่อ ในขณะที่คนก่อเรื่องในตอนนี้กำลังขยับกายขึ้นฟุบกายหลับลงบนเตียงหลังกว้างด้วยความเหนื่อยล้าไม่สนใจบทสนทนาของชายหนุ่มทั้งสาม


"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ เบลล่าน้องรักของนายน่ะดื้อจะมีอะไรกับฉันโดยที่ไม่ให้ฉันใส่ถุงยางอนามัย แถมยังไม่ยอมให้ฉันปล่อยนอกอีก" เพอร์เซอุสที่หนีไปสงบสติอารมณ์อยู่ตอบคำถามของน้องชาย


"ก็ไม่จำเป็นต้องรุนแรงขนาดนี้หรือเปล่า"


"มันไม่ใช่แค่นั้น เพราะยัยเบลคิดอะไรตื้นๆ เล่นซนเป็นเด็กไม่รู้จักโต คิดแค่ว่าถ้าพลาดท้องก็แค่บอกไปว่าท้อง ไม่ได้คิดถึงอนาคตของตัวเองเลยแม้แต่น้อย" มาร์คัสเอ่ยเสริม


สิ้นคำตอบของพี่ชายทั้งสองคนรอยส์ทำเพียงถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกและขยับมือรูดรั้งปลุกความเป็นชายของตัวเองให้ตื่นขึ้นแล้วสวมเกราะป้องกันลงไป


เด็กดื้อ ต้องถูกลงโทษ


สิ่งที่พี่เขาทำลงไปและที่เขากำลังจะทำเป็นเรื่อที่ผิด แต่ในเมื่อวันเป็นข้อตกลงรดหว่างเราทั้ง 4 คนว่าหากอิซาเบลล่าดื้อรั้น หรือเล่นซนจนไม่รู้ขอบเขตหรือคิดหน้าคิดหลังให้ดีก็จะถูกลงโทษเช่นนี้ การที่ผู้ตัวเล็กอายุเพียง 22 ปีต้องมารองรับอารมณ์ของชายหนุ่มวัยกลัดมันอย่างพวกเขาทั้ง 3 คนนั้นเป็นเรื่องที่โหดร้าย แต่ในเมื่อคนผิดเขาเสนอแบบนี้ขึ้นมาเอง ก็ไม่มีอะไรต้องทำนอกจากทำตามข้อตกลงที่วางกันไว้


รอยส์ขยับขึ้นไปบนเตียงที่มีร่างบางนอนหลับตาพริ้มด้วยความเหนื่อยล้าอยู่ ไม่ใช่ว่าไม่สงสารน้อง แต่ข้อตกลงที่ได้ทำกันไว้ก็ไม่อาจมองข้ามมันไปได้


รอยส์จัดท่าให้กับคนที่นอนคว่ำหน้ายกสะโพกในสูงขึ้นขนเห็นช่องทางสีสดที่ตอนนี้บวมเป่งได้อย่างชัดเจน เขาจับแกนกายของตัวเคาะลงบนสะโพกอวบสองสามครั้งแล้วนำไปถูไถตรงช่องทางอีกสี่ห้าครั้งก่อนทร่กดแกนกายเข้าไปแล้วขยับเข้าออกอย่างรึนแรงพร้อมกับฟาดมือลงไปบนสะโพกนุ่มเสียเต้มแรงจนรวยมือปรากฏและเขาก็ไม่ได้สนใยไม่ว่าตนที่เขากำลังลงโทษนั้นได้สลบไปแล้ว


มาร์คัสและเพอร์เซอุสไปนั่งรอน้องชายของพวกเขาลงโทษเด็กดื้ออยู่บนโซาตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงข้างกับหน้าต่างโดยที่มือของพวกเขาก็ต่างชักรูดแกนกายของตัวเแงขึ้นลงเพื่อเตรียมพร้อม


ใช่ มันยังไม่จบ


แรงขยับกระทกกระทั้นที่รุนแรงจนทำให้เตียงขยับสั่นกุกกักเสียงดังจนคนที่กำลังถูกลงโทษต้องปรือตาตื่นขึ้นหลังจากที่เผลอหลับไปได้แค่ 5 นาที


"เด็กดื้อต้องโดนลงโทษ เบลยังจำข้อตกลงของเราได้อยู่ใช่ไหม" รอยส์เอ่ยถามพร้อมกับหอบหายใจอย่างหนัก

"อ๊ะ จะ..จำได้"


"ก็ดี เพราะพี่ก็จะไม่ใจอ่อน" 


รอยส์คว้าต้นแขนทั้งสองข้างร่างบางขึ้นจนแล้วถอดเสื้อคลุมอาบน่ำออกจนร่างกายที่เปลือยเปล่าของคนตัวเล็กแนบชิดไปกับแผงอกและหน้าท้องแกร่งของชายชาติทหารที่ทำหน้าที่เป็นราชองครักษ์


มือหนาสอดเข้าใต้แขนเพื่อบีบเค้นหน้าอกอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือในขณะที่ช่วงล่างก็ขยับกายเข้าออกอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง


ร่างสูงแขนเล็กให้พาดลำคอแกร่งเพื่อที่จะได้โน้มไปหน้าเข้าไปดูดเม้มหน้าอกอวบอิ่มนั้นได้อย่างถนัด


รอยส์ขยับกายเข้าออกถี่รัวอยู่ราวๆ 20 นาทีก่อนจะรีบเร่งความเร็วจนอิซาเบลล่าร้องครางไม่เป็นภาษา ในที่สุดเขาก็ปลดปล่อยเข้าไปในตัวของหญิงสาวโดยมีถุงยางอนามัยกักเก็บเชื่อพันธ์เอาไว้


รอยส์ถอนแกนกายออกรูดรั้งถุงยางอนามัยที่มีเชื้อพันธ์ของเขาบรรจุอยู่ออกแล้วโยนทิ้งลงไปบนพื้นห้อง ก่อนจะหันไปรับถุงยางอนามัยชิ้นใหม่จากพี่ชายคนโตแล้วสวมใส่ลงบนแกนกายร้องของเขาอีกครั้ง


รอยส์เปลี่ยนลงไปนั่งบนพื้นเตียงแล้วอุ้มร่างบางขึ้นนั่งทับตักของเขา ในขณะที่กำลังรอพี่ชายของเขาอีก 2 คนเตรียมพร้อม ระหว่างนั้นเขาก็กดแกนกายของเขาเองเข้าไปในช่องทางฉ่ำเยิ้มที่เขาเพิ่งจะถอนแกนกายออกเมื่อครู่ ในขณะที่มือหนาก็คอยเค้นคลึงหน้าอกของร่างบางทั้งสองข้าง จวบจนพี่ชายทั้งสองของเขาเดินขึ้นมาบนเตียง


เพอร์เซอุสยืนคร่อมอิซาเบลล่าและน้องชายของเขาโดยจับแกนกายแข็งขืนของตัวจ่อเข้าที่ริมฝีปากบางที่ค่อยๆอ้าออกอย่างรู้งาน ศีรษะเล็กขยับเข้าออกรูดรั้งแกนกายร้อนที่คับแน่นปากของเธอไปหมดเพื่อไม่เบี่ยงเบนความสนใจไปจากส่วนสงวนของเธอที่กำลังมีแกนกายขนาดใหญ่อีกหนึ่งอันเบียดแทรกเข้าไปข้างในทั้งที่มีแกนกายอีกอันแช่คาอยู่ก่อนแล้ว


คนตัวเล็กหวีดร้องส่งเสียงอื้ออึงอยู่ในลำคอด้วยความเจ็บปวดที่ช่องทางของเธอกำลังถูกแกนกายขนาดใหญ่ 2 อันล่วงล้ำเข้ามาพร้อมกัน ครั้นจะหวีดร้องออกมาอย่างสุดเสียงเพื่อระบายความเจ็บปวดก็ไม่อาจทำได้ในปากของเธอมีอีกหนึ่งแกนกายอยู่ภายในซ้ำยังถูกกดศีรษะเอาไว้จนไม่สามารถคายแกนกายนั้นออกเพื่อกรีดร้องได้


น้ำตาหยดใสที่ไหลรินออกจากหางตาถูกเช็ดออกด้วยมือของคนที่เธอดันไปเล่นซนจนได้รับการลงโทษนี้ แต่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการลงโทษก็เถอะ แตาสาบานเลยว่าที่อิซาเบลล่าไปยั่วโมโหเพอร์เซอุสเอาไว้ ก็เพราะว่าเธออยากได้รับการลงโทษแบบนี้


ถ้าจะให้เธอเลือก 1 จาก 3 คนนี้ เธอก็บอกได้เลยว่าเธอไม่เลือก เธอลุ่มหลงในรสเซ็กของทั้งสามคนนี้ แม้ในเวลาปกติพวกเขาจะไม่ได้มีเซ็กมาราธอนกันแบบนี้ก็ตาม และใช่ การที่เธอต้องงานกับบุรุษที่เหมาะสมตามกฎมณเฑียรบาลนั้นทำให้เธอไม่พอใจ เธอไม่อยากเอาชีวิตไปถูกไว้กับคนอื่น ต้องมีเซ็กกับคนอื่นโดยที่ไม่สามารถมีสัมพันธ์ทางกายกับคนสนิทมั้ง 3 คนของเธอได้อีก


"ไม่ว่าจะรู้สึกแย่แค่ไหน แต่คราวหน้าคราวหลังห้ามทำแบบนี้อีกเข้าใจไหม ถ้าอยากให้พวกพี่ทำ ก็แค่มาบอกกันดีๆ ไม่ใช่พูดอะไรแบบเด็กไม่รู้จักโตแบบนั้นออกมา" เพอร์เซอุสดุกับร่างน้อยอีกครั้งเมื่อพี่น้องฝาแฝดของเขาสามารถใส่แกนกายเข้าไปในช่องทางของหญิงสาวได้สำเร็จและเริ่มออกแรงขยับเข้าออกสลับกันจนเจ้าของช่องทางสวาทโยกคลอนและครางกระเส่าไม่เป็นภาษา


"ไม่ทำแล้ว เราจะไม่ทำอีกแล้ว" หญิงสาวพูดเมื่อปากของเธอเป็นอิสระจากแกนกายร้อนระอุ


"รอยส์ อ้าขาน้องออกอีกหน่อย" เสียงของมาร์ตินที่เอ่ยส่งน้องชายคนสุดท้องให้อ้าขาของสตรีผู้สูงศักดิ์ที่พวกเขาช่วยกันดูแลมาจนเติบใจเมื่อเห็นว่าเพอร์เซอุสฝาแฝดคนกลางของเขาสวมถุงยางอนามัยลงบนแกนกายเรียบร้อยแล้ว


"ไม่ๆ ไม่เอาแล้ว" อิซาเบลล่าส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวันเมื่อเห็นว่าแกนกายขนาดใหญ่อันที่สามกำลังจะสอดแทรกเข้าไปในช่องทางของเธอ


แม้ว่าเธอจะเคยร่วมเพศแบบแกนกาย 2 อันอยู่ในช่องทางของเธอมาแล้วหลายครั้ง แต่เธอก็ไม่เคยร่วมเพศโดยมีแกนกายถึง 3 อันอยู่ในตัวเธอพร้อมกัน


เธอหวีดร้องด้วยความเจ็บปวดและทรมานเมื่อแกนขนาดใหญ่อีก 1 อันของเพอร์เซอุสกำลังเบียดแทรกเข้าไปภายในช่องทางเธอ 


"ไม่เอา เพอร์ซี่ ไม่เอานะ มาร์ค รอยส์ พอแล้ว กรี๊ดดดดดดดด" 


อิซาเบลล่าหวีดร้องเสียงดังเพอร์เซอุสพยายามจะสอดแทรกแกนกายเข้ามาให้ไอ้ เธอดิ้นพล่านด้วยเจ็บปวดและทรมาน อยากจะลึกหนีไปจากตรงนี้แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะท่อนแขนแกร่งของคนที่เป็นราชองครักษ์พันธนาการเธอเอาไว้

"เข้าไม่ได้ ถอดออกก่อนไหม แล้วค่อยใส่พร้อมกัน" 


หญิงสาวรูปสึกวูบโหวงเมื่อแกนขนาดใหญ่ที่อยู่ในตัวเธอถูกถอนออกไป เธอมีความคิดจะหนี ก็เธอทำอะไรไม่ได้อยู่ดี

"เพอร์ซ เอานายมาก่อน รอยส์ อ้าขาน้องออกกว้างๆ" มาร์คัสและเพอร์ซมองหน้ากันเพื่อนับจังหวะ ทั้งสองกำหมัดแน่นรอให้จังหวะที่รอยส์อ้าขาของคนตัวเล็กออกให้กว้างที่สุด พวกเขานับ 1-3 แล้วสอดท่อนแขนแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเขาเข้าไปพร้อมกันแล้วขยับเข้าออกเพื่อเป็นการเบิกทางสำหรับแกนการของพวกเขาสามคน


มาร์คัสและเพอร์เซอุสขยับแขนเข้าออกอยู่ๆ 5 นาทีโดยไม่ได้สนใจคนตัวเล็กที่หวีดร้องได้ความเจ็บปวด น้ำตาไหลนองหน้าแล้วถอนแขนพวกเขาออกมา


ช่องทางของคนตัวเล็กขยายออกกว้างอย่างน่ากลัวแต่ก็เป็นที่พึงพอใจพวกเขาทั้ง 3 คน สามแฝดจับแกนของพวกเขาที่สวมใส่ถุงยางอนามัยไว้เรียบร้อยเข้าแนบชิดกันแล้วจึงออกแรงกดส่วนหัวของแกนกายของเขาเข้าไปในช่องทางที่ถูกขยายเพื่อรองรับแกนกายพวกเขา


เสียงหวานกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอีกครั้งก่อนจะเริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงครางด้วยความสุขสมเมื่อสามารถปรับตัวกับแกนกายขนาดใหญ่ทั้งสามอันนี้ได้


"สุดยอดไปเลยนะเบล พี่ไม่คิดเลยว่าเราจะรับของพวกพี่ได้หมดทั้ง 3 คนแบบนี้" มาร์คัสเอ่ยเสียงกระเส่าเะราะความเสียวกระสันที่กำลังเล่นงาน


"เรา อ๊า! กะ...โกรธ อ๊ะ! พะ...พวกพี่"


"ไม่ต้องห่วงเรื่องสามีในอนาคตว่าเขาจะรับเรื่องนี้ไม่ได้ อา... พวกพี่มีญาติห่างๆอยู่คนหนึ่ง ตอนรี้เป็นองค์ชายของราชอาณาจักรเพอร์เมอุสอยู่" รอยส์ว่าพลางลูบหัวคนตัวที่กำลังนั่งทับเขาอยู่ การขยับตัวเข้าออกของเขาในตอนนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะแรงส่งจากพี่ชายของเขาอีกสองคนก็มากพอให้เขารู้สึกเสียวกระสันได้


"จริงๆก็ไม่เชิงญาติห่างๆหรอก สนิทกันมากด้วยซ้ำ น้ำตาก็ละไม้คล้ายคลึงกันกับพวกพี่ราวกับเป็นฝาแฝดคนที่ 4 และที่สำคัญคือเหมาะสมตามกฎมณเฑียรบาลแน่นอน" เพอร์อุสกล่าวขณะขยับกายเข้าออกเป็นจังหวะสลับกับมาร์คัส ที่ตอนนี้กำลังหลับตาสูดปากด้วยความเสียว


"พวกพี่ อ๊ะ! กำลังคะ... คุยถึงสามี อื้อ! ในอ... อนาคตของเรา อ๊ะ! ทั้งๆที่ อ๊ะ! กำลังทำแบบนะ.. นี้กับเรา อ๊า! เนี่ยนะ" อิซาเบลล่าเอ่ยด้วยเสียงกระท่อนกระแท่นขาดๆหายๆสลับกับเสียงครางด้วยความเสียวกระสัน


"อาทิตย์หน้า เขาจะมาหาน้องที่นี่" รอยส์พูดขณะหลับตาบีบเค้นหน้าอกนุ่มฟูเต็มไม้เต็มมือด้วยความสุขสม


"จะเสร็จกันแล้วยัง" มาร์คัสเอ่ยถามเหล่าน้องๆ ก่อนจะได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้า พวกเขาทั้งสามจึงใส่แรงเฮือกสุดท้ายขยับกายเข้าออกถี่รัวพร้อมกันทั้ง 3 คนจนคนตัวเล็กทั้งจุกแล้วเสียวไปพร้อมกันจนไม่อาจเปล่งเสียงอะไรออกมาได้ก่อนที่จะได้ยินเสียงดังของอากาศที่เข้าไปช่องว่างที่มีความดันอากศต่างกันโดยฉับพลันเมื่อทั้งสามพร้อมใจกันดึงแกนกายทั้งสามออกรูดรั้งเกราะป้องกันออกแล้วขยับรูดรั้งแกนกายเพื่อปล่อยเชื้อพันธุ์สีขาวขุนลงบนหน้าอกอวบอิ่มของหล่อน


แต่ให้ตายเถอะ เธอยังไม่ถึงที่หมาย


มือเรียวยื่นออกหวังว่าจะสอดนิ้วเข้าไปในช่องทางของเธอแต่กลับโดนคว้าเอาไว้โดยมือแกร่งของมาร์คัส แล้วช่องทางของเธอก็ถูกเติมเต็มโดยแขนของเพอร์เซอุสแทน


"ของเราตอนนี้น่ะ แค่นิ้วมันยังไม่พอหรอก"


อิซาเบลล่าบิดเร่าด้วยความเสียวกระสัน ช่องทางเธอตอดรับท่อนแขนแกร่งของเพอร์เซอุสถี่รัวตามความเร็วขยับเข้าออกของท่อนแขน


"จะ ไป... จะไป อ๊ะ จะไป กรี๊ดดดดดดด"


อิซาเบลล่ากระตุกตัวเกร็งกรีดร้องสุดเสียง ขับน้ำล่อลื่นออกมาจำนวนมากเมื่อถึงจุดหมาย เพอร์ซี่ค่อยถอดท่อนแขนของเขาออกมา แล้วชูให้ร่างบางได้เห็นว่าแขนของเขาเปียกชุ่มมากแค่ไหน


"เราควรจะได้เห็นของเราตอนนี้นะ มันกว้างเท่าหัวเด็กเลยล่ะ"


"เงียบปากไปมาร์คัส" หญิงสาวร้องเสียงแหวพร้อมกับฟาดมือลงไปที่ต้นแขนแกร่ง


"ลองหุบขาหน่อย" รอยส์กับขอที่สั่นระริกของตัวเล็กให้ขยับชิดติดกัน แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อเจ้าหล่อนเจ็บจนหยดน้ำตาร่วงลงมา


"ถ้าอย่างก็นอนไปแบบนี้ก่อน พวกพี่จะเช็ดตัวให้"


ให้ตายเถอะ คราวหน้าคราวหลังเธอจะไม่คิดลองดีเป็นเด็กไม่รู้จักโตอีกแล้ว


_____________________________________________

ว่าจะให้จบในตอนเดียวแต่มันไม่จบแฮะ ยังเหลืออีกหนึ่งบุรุษที่ยังไม่ได้ออกโรง


จริงๆแล้วอยากจะตั้งชื่อว่า จักรพรรดินีและบุรุษทั้ง 4 ของเขา แต่ก็ดูจะอะไรอยู่


ไม่มีสาระหรือปมอะไรใดๆทั้งสิ้นค่ะ กามล้วนๆเลย เอาเรื่องบัลลังก์มาปูเรื่องเฉยๆค่า


เปลี่ยนแท็ก จาก queenmm เป็น #empressmm นะคะ



Comments


GET ON THE LIST​

©2023 by Deluxxe. Proudly created with wix.com

bottom of page