Colorful Soul #ficclfs :: [MARKMIN] :: Keep Going (Omegaverse) :: 4 #keepgoingmm [Thai]
- 97melancholy
- Jan 15, 2019
- 2 min read
Title :: Keep Going
Couple :: Mark x Jaemin
Theme :: Omegaverse
Rate :: 18+
Characters ::
Mark => Martyn T. Leopard
Jaemin => Janene Na
Jeno => Jeno T. Leopard
Renjun => Jerry Mour
Jisung => Jesse T. Leopard
Chenle => Chen Zhong
Haechan => Hendry Limmer
Chapter 4
เจนีนกำลังทรมาน เขากำลังทรมานมากๆกับความรู้สึกที่กำลังเผชิญอยู่ ใบหน้าน่ารักแดงก่ำและเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เช่นเดียวกันกับลำคอและเนื้อตัวที่ร้อนรุ่มราวกองไฟ ที่นอนนุ่มเปียกชื้นจากเหงื่อกาฬที่ไหลออกมาจากอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นจากสิ่งที่เรียกว่า 'ฮีท'
ใช่ เจนีนกำลังฮีท
อายุเขามากเกินกว่าที่จะกินยาระงับอาการฮีทที่มีไว้สำหรับโอเมก้าวัยรุ่นที่ยังไม่พร้อมจะมีครอบครัว และถึงแม้ว่ามันจะมี การกินยาก็อันตรายเกินไปเพราะอายุของเจนีนนั้นก็มากกว่าที่จะกินยาแค่เม็ด 2 เม็ดแล้วอาการจะหายหรือบรรเทาลงได้ ทางเดียวที่เจนีนจะหายจากความทรมานนี้ได้คือการได้รับความช่วยเหลือจากอัลฟ่าเท่านั้น
แต่มันก็ไม่ได้ง่ายสำหรับโอเมก้าอายุ 28 ปีที่ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็น แม้ว่าการมีเซ็กแบบ one-night stand จะเรื่องปกติธรรมดาที่ใครๆเขาทำกัน แต่ไม่ใช่ในช่วงที่กำลังฮีท เพราะอาการข้างเคียงที่ต้องปวดเมื่อยตามร่างกาย วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หรือบางครั้งอาจจะรุนแรงถึงขั้นช็อคที่จะตามมาหลังจากนั้น เจนีนไม่เอาด้วย
อายุของเขามากขึ้น ร่างกายก็มีการพัฒนาให้พร้อมรับการสืบพันธุ์ และเป็นแม่ ที่สำคัญคือร่างกายจะจดจำกลิ่นและเอกลักษณ์ทั้งทางกายภาพและเพศสภาพเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการร่วมเพศกับต่างคู่แม้จะยังไม่ได้มีการกัดคอเกิดขึ้นก็ตาม
เพราะฉะนั้นในการฮีทแต่ละครั้งเจนีนมักจะต้องทรมานอยู่เสมอ แต่ก็นับเป็นโชคดีอยู่บ้างที่เขามีอัลฟ่าไว้คอยช่วย
'ติ๊ด~'
เสียงกดรหัสและเปิดประตูห้องชุดดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงก้าวเดินที่ดูเหมือนจะเร่งรีบขึ้นเรื่อยๆเป็นกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหยุดที่หน้าห้องนอนที่ร่างบางนอนขดตัวอยู่ด้วยความทรมาน
ประตูห้องนอนถูกเปิดออกพร้อมกับกลิ่นของเปลือกไม้ที่เจนีนแสนจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีลอยตลบอบอวลไปทั่วห้องนอนผสมคละเคล้าเข้ากับกลิ่นพีชสุกงอมเปรี้ยวอมหวานได้เป็นอย่างดี
เจนีนขยับศีรษะตามแรงประคองจากอัลฟ่าที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและคู่ขาในยามฮีทของเขา
"เจน ไหวไหม"
เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยถามอย่างอ่อนโยนและสงสารเพื่อนตัวเล็กจับใจ มือหนาลูบไล้ใบหน้าหวานและเส้นผมนุ่มที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากมน
"เจโน่ ไม่ไหว ช่วยที" เสียงหอบกระท่อนแท่นเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาขณะพลิกกายซุกใบหน้าเข้ากับหน้าอกแกร่งที่เป็นที่พักพิงให้เขาเสมอมา
"มันรู้สึกมากกว่าทุกทีอีกนะเจโน่"
"ชู่ ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันจะช่วยเอง"

เจโน่ไม่เคยหมดแรงขนาดนี้มาก่อน
เขากับเจนีนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กเพราะเรียนห้องเดียวกันตั้งแต่ middle school เพิ่งจะแยกกันก็ตอนเข้ามหาวิยาลัยที่เขาไปเรียนบริหารส่วนเจนีนเพื่อนของเขาไปเรียนด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ส่วนความสัมพันธ์ทางกายนะหว่างทั้งสองนั้นเริ่มเมื่อตอนที่เจนีนอายุ 20 ปี ซึ่งเป็นปีที่ 5 ตั้งแต่เจ้าเพื่อนตัวเล็กฮีทครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 15 และยาระงับฮีทใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป
ระหว่างพวกเขาไม่ควรเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ถึงแม้ต่างฝ่ายจะต่างบริสุทธิ์ใจต่อกันและที่มีสัมพันธ์ทางกายกันก็เพราะต้องการช่วยเหลือไม่ให้เพื่อนของเขาต้องทรมานหรือเป็นอันตรายจากการใช้ยาระงับฮีทที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเพราะอาการดื้อยา ที่สำคัญยังเป็นการปกป้องเพื่อนสนิทของเขาจากอัลฟ่าตนอื่น
พวกเขามีสัมพันธ์กันมาเรื่อยๆ แต่ไม่เคยมีสัมพันธ์กันนอกฮีทเลยสักครั้ง เซ็กระหว่างพวกเขาร้อนแรงตามอารมณ์ของโอเมก้าในช่วงฮีทและอัลฟ่าที่จะมีอาการรัทตามโอเมก้าที่กำลังมีสัมพันธ์ทางกายด้วย แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้
เจนีนมีความต้องการมากกว่าปกติ จนเจโน่ถึงกับหมดแรงและตื่นมากินไข่ลวกถึง 2 ฟองเพื่อเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายก่อนจะกลับไปนอนแผ่กายบนเตียงอย่างหมดสภาพหรือเรียกได้ว่าอาการฟ้าเหลือง ส่วนคนที่แปลกไปก็สลบยาวตั้งแต่เช้ามืดที่เซ็กครั้งสุดท้ายระหว่างพวกเขาจบลงจนตอนนี้เวลาล่วงเลยเข้าสู่ 2 ทุ่มแล้ว เจ้าเพื่อนตัวจ้อยก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมา
เจโน่ลุกไปอาบน้ำจัดการตัวเองก่อนจะรู้สึกผิดสังเกตกับจำนวนถุงยางอนามัยที่เขาใช้ไปตั้งแต่เย็นของเมื่อวานจนรุ่งสางของวันนี้
เขาจำได้ว่าเมื่อเดือนก่อนซื้อถุงยางอนามัยมาเก็บไว้ 1 แพ็คใหญ่มีทั้งหมด 12 กล่องและใช้ไปเพียง 2 กล่องเมื่อฮีทรอบที่แล้ว กับรอบนี้ที่ใช้ไปกว่า 4 กล่อง รวมๆแล้วจะต้องมีถุงยางอนามัยเหลืออยู่ 6 กล่องด้วยกัน แต่มันกลับไม่ใช่ เพราะตอนนี้ในลิ้นชักข้างเตียงกลับมีถุงยางอนามัยเหลือเพียงกล่องเดียว และข้างในก็หายไปถึง 2 ชิ้นเช่นกัน
เจนีนไม่ใช่คนที่จะมีอะไรกับใครแบบไม่เลือก ในตอนเรียนปริญญาตรีอาจจะใช่ แต่ตั้งแต่ที่เจ้าตัวเริ่มเรียนปริญญาโทมาจนถึงตอนนี้ เจนีนไม่เคยมีสัมพันธ์กับใครนอกจากเขา
เห็นทีเจโน่คงต้องอยู่คุยกับเพื่อนสนิทที่เป็นโอเมก้าเพียงคนเดียวของเขายาวเสียแล้ว
จากเดิมที่ว่าจะลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วสั่งอาหารมาให้เจ้าเพื่อนสนิทที่หลับสนิทไม่ไหวติงแล้วก็กลับไปเคลียร์งานของตัวเองต่อ เจโน่คงต้องเปลี่ยนแผนนั่นแล้ว
"เจน ตื่นได้แล้ว ไปอาบน้ำแล้วลุกมาหาอะไรกิน เจน เจนีน"
เจโน่เขย่าร่างของเพื่อนตัวเล็กให้ตื่นขึ้นไปอาบน้ำแต่เจ้าตัวดื้อก็ยังไม่ยอมลุกขึ้นแถมยังหันหน้าหนีแล้วเอาหมอนมาปิดศีรษะไว้อีก
"อื้อ~~ ไม่เอาน่าเจ็น เราจะนอน แกปล่อยให้เรานอนเถอะ" ร่างบางว่าเสียงอู้อี้
"ไม่ได้ 2 ทุ่มแล้ว ลุกไปอาบน้ำ ฉันสั่งอาหารไว้แล้ว" เจโน่พยายามดึงแขนเล็กที่มีรอยแดงจางๆอยู่ให้อีกฝ่ายลึกขึ้น
"ขอ 5 นาที"
เจโน่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจก่อนลุกไปยังห้องน้ำ เตรียมน้ำใส่อ่างปรับอุณหภูมิให้อุ่นพอดีก่อนจะเดินกลับไปที่เตียงนอนแล้วช้อนร่างเปลือยเปล่าของเพื่อนสนิทตัวเองขึ้นอุ้มแนบอกแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง ร่างสูงย่อตัวลงเมื่อมาหยุดอยู่บริเวณอ่างจากุชชี่ก่อนจะปล่อยเพื่อนตัวเล็กของเขาลงไปในอ่างแล้วรีบถอยออกหลีกหนีน้ำที่ล้นออกมา
"ไอ้เจ็น ทำอะไรของแกเนี่ย แค่กๆๆ" เจนีนตื่นเต็มตาหลังจากที่ถูกเพื่อนตัวดีโยนลงไปในอ่างน้ำทั้งๆที่กำลังหลับอยู่ คนตัวเล็กบ่นกระปอดกระแปดสลับกับไอโขลกเนื่องจากน้ำที่ไหลเข้าปากและจมูกโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว
"ปลุกแล้วไม่ยอมตื่นก็ต้องใช้วิธีนี้" เจโน่ไหวไหล่พร้อมกับส่งยิ้มยียวน "รีบอาบน้ำแล้วออกมากินข้าวกินยา ฉันสั่งอาหารจากร้านลุงโจเซฟร้านโปรดแกไว้ให้แล้ว"
พูดจบเจโน่ก็เดินออกไปจากห้องน้ำพร้อมกับหัวเราะลั่นโดยที่หาได้สนใจเสียงด่าทอจากเพื่อนตัวเล็กที่พ่นคำหยาบไล่หลังเขาอย่างโกรธเคือง

บนโต๊ะอาหารไม่มีเสียงพูดคุยเพราะตอนนี้เจนีนกำลังทานพิซซ่าเปปเปอโรนี่สลับกับสปาเก็ตตี้ครีมเห็ดอย่างเอาเป็นเอาตายเช่นเดียวกับเจโน่ที่กำลังนั่งแทะไก่ทอดสูตรพิเศษสุดโปรดจากร้านลุงโจเซฟที่พวกเขาทั้งสองโปรดปรานด้วยมือซ้ายส่วนมือขวาก็มีพิซซ่าชิ้นใหญ่อยู่ด้วยและทั้งสองมือก็ทำหน้าที่ประสานกับปากได้เป็นอย่างดีที่เมื่อเคี้ยวและกลืนไก่ทอดเสร็จเจโน่ก็ยัดพิซซ่าเข้าปากแล้วกัดเสียคำโต
คนสองคนที่ต่างเพศสภาพกันเพราะคนหนึ่งได้ชื่อว่าเป็นอัลฟ่าเลือดบริสุทธิ์กับอีกคนที่เป็นโอเมก้าชั้นต่ำในสังคมในเวลานี้มีสภาพไม่ต่างกันคือหิวโหยและอ่อนเพลีย
ไม่มีใครคาดคิดว่าเซ็กครั้งนี้จะสูบพลังของพวกเขาไปจนหมด และต้องมานั่งกิน ไม่สิ ต้องเรียกว่ายัดอาหารจากร้านโปรดอย่างเอาเป็นเอาตายขนาดนี้
แค่ 10 นาทีอาหารบนโต๊ะทุกอย่างก็ถูกจัดการจนเกลี้ยงเหลือไว้เพียงกระดูกของไก่ทอดและคราบซอสเล็กๆน้อยๆเพียงเท่านั้น
เจนีนและเจโน่นั่งแผ่กายอ้าแขนอ้าขาสะเปะสะปะเต็มโซฟาในห้องนั่งเล่นหลังจากที่ทำความสะอาดเสร็จเรีบบร้อยด้วยสภาพที่จุกจนไม่มีแรงจะเดินไปไหนได้อีกแล้ว ก่อนความเงียบภายในห้องจะถูกทำลายลงด้วยเสียงเรอที่ดังไปทั่วทั้งห้องนั่งเล่นจากเจโน่คนที่ถูกจัดให้เป็นนักธุรกิจหนุ่มที่เป็นที่หมายปองจากหญิงสาวและชายหนุ่มอันดับ 2 ของโลกรองจากมาร์ติน ธ.เลพเพิร์ด พี่ชายของเจ้าตัวเขา
"ไอ้เหี้-~~~~~ สกปรกอะ" เจนีนหยิบหมอนอิงที่อยู่ใกล้ตัวฟาดลงไปบนหน้าท้องของเพื่อนตัวสูงที่ทำตัวสกปรก แต่เพราะเจ้าตัวกำลังอิ่มและจุกจนขี้เกียจขยับตัว เสียงเรอครั้งที่สองก็ถูกปล่อยออกมาอีกครั้ง และครั้งนี้มันที่ดังและยาวกว่าเดิม
"จุกว่ะ มีอะไรช่วยย่อยบ้างปะ" เจโน่ยกเท้าขึ้นเขี่ยเพื่อนสนิทของเขาแรงๆเป็นแกมบังคับว่าที่เขาพูดไปเมื่อครู่ไม่ใช่คำถามแต่เป็นคำสั่งว่า 'เจนีน แกลุกไปละลายเม็ดฟู่ช่วยย่อยให้ฉันสักแก้วสิ'
"ลุกไปเองดิ อยู่ในตู้ยานั่นแหละ"
"เห้ย จุก ลุกไม่ขึ้น" เจโน่ใช้เท้าเขี่ยร่างบางอีกครั้งแต่ดูเหมือนว่าคราวนี้เขาจะกะแรงและตำแหน่งผิดไปหน่อยเพราะเท้าของเขาดันไปอยู่ที่สะโพกของเพื่อนสนิทและออกแรงมากไปจนเพื่อนของเขาแทนที่จะโดนสะกิดกลับเปลี่ยนเป็นโดนถีบจนตกโซฟาไปแทน
"ไอ้เจ็น ไอ้เหี้- เรายิ่งเจ็บก้นอยู่ยังจะถีบมาได้นะ" เจนีนทำหน้าเจ็บปวดพร้อมกับน้ำตาที่ซึมออกมาของดวงตาสวยจนเจโน่ต้องฝืนสังขารตัวเองลุกขึ้นประคองให้เพื่อนจอมดื้อของเขาลุกขึ้นไปนั่งบนโซฟาดีๆแล้วเขาก็เดินไปยังตู้ยาเพื่อชงเม็ดฟู่ช่วยย่อย 2 แก้วให้กับเขาเองและเพื่อนตัวเล็กของเขา
ทั้งสองนั่งจิบยาช่วยย่อยไปเรื่อยโดยไม่มีใครพูดอะไรจนหมดแก้ว เจโน่จึงเอ่ยถามสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจเขา
"เจน"
"หือ?"
"ถุงยางหายไปไหนวะ"
เจนีนชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ฟังคำถามจากเพื่อนสนิทก่อนจะไหวไหล่อย่างไม่นึกสนใจ
"มันมีไว้ทำอะไรก็เอาไว้ทำอันนั้นแหละ"
"กับใครวะ" เจโน่ถามต่อ
"ใครสักคน"
"ฉันรู้จักไหม"
เจนีนเงียบไปอย่างครุ่นคิด ก่อนจะพยักหน้ารับ
"อือ แกรู้จักดีเลยแหละ"
"งั้นขอถามนะ ทำไมถึงยอมให้เขาทำ ถามเพราะเป็นห่วง รู้ใช่ไหม" เจโน่พูดเสียงที่ปะปนไปด้วยความกังวลจนเจนีนขยับกายไปนั่งซบอกแกร่งของเพื่อนสนิทที่อีกฝ่ายก็ยกแขนขึ้นเพื่อให้ร่างบางได้นั่งสบายแล้ววาดแขนกอดคอไว้
"เจอแล้วนะ"
"หือ?" เจโน่เลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย
"คู่ชะตาน่ะ เจอแล้วนะ อยู่ดีๆก็เจอ ไม่ทันตั้งตัวเลย" เจนีนว่าพลางเบียดใบหน้าเข้าซุกอกแกร่งอย่างนึกออดอ้อนและต้องการซึมซับกลิ่นหอมเปลือกไม้ของเพื่อนสนิทเอาไว้เพราะตอนนี้ใจของเจนีนมันวูบโหวงไปหมดเพราะเริ่มรู้สึกว่ากลิ่นนี้มันจางลงทุกทีจนแทบจะไม่ได้กลิ่นทั้งๆที่นั่งใกล้กันขนาดนี้ และเช่นเดียวกันกับเจโน่ที่กระชับกอดเพื่อนตัวเล็กแน่นแล้วกดจมูกลงบนกลุ่มผมนุ่มหอมที่ตอนนี้กลิ่นพีชสุกงอมเริ่มจางหายไปเรื่อยๆแล้ว
"อือ เจอแล้วเหมือนกัน ขอถามได้ไหมว่าเขาเป็นใคร เพราะคู่ของฉันน่ะ เขาน่ารักมากๆเลยล่ะ เหมือนแมวด้วย ส่วนกลิ่น รู้สึกว่าจะเป็นกลิ่นของดินและหญ้าหลังจากฝนตกล่ะ" เจโน่พูดพร้อมรอยยิ้มจนคนตัวเล็กอดยิ้มตามไม่ได้
"อือ ของเราเขาเป็นคนที่ไม่รู้จะพูดยังไงดี แต่เราละสายตาจากเขาไม่ได้เลย กอดเขาอุ่นมาก เสียงเขาก็ไพเราะ ส่วนกลิ่นของเขาก็เหมือนกับกลิ่นกระดาษของหนังสือที่เราชอบอ่านเลยล่ะ" เจนีนพูดพร้อมกับกอดเอวของเจโน่แน่น ใบหน้าสวยซุกลงบนอกกว้างแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างช้าเช่นเดียวกันกับเจโน่ที่ปล่อยให้น้ำตาของตัวเองไหลลงมาอย่างช้าๆเช่นเดียวกัน
"ถามได้ไหมว่าใคร" เจโน่เอ่ยเสียงสั่นอย่างนึกกลัว เพราะเขารู้ดีว่ากลิ่นกระดาษหนังสือที่เจนีนชอบนั้น เป็นกลิ่นของคนที่เขาเองก็รู้จักดี
"มาร์ติน" ร่างบางเอ่ยเสียงแผ่ว
"มาร์ติน เลพเพิร์ด"
เจโน่ใจกระตุกวูบ
"พี่ชายของฉันสินะ"
"อือ" เจนีนพยักหน้า "แล้วของนายล่ะ"
"เจอร์รี่" เจโน่พูดพลางกระชับกอดแน่น
"เจอร์รี่ มัวร์"
เจนีนหลับตาลงปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาอีกครั้ง
"เพื่อนสนิทของเราเองสินะ"
"อือ" เจโน่ตอบ "รักแกนะ"
"รักเหมือนกัน"
"แต่เราคงต้องหยุดแค่นี้แล้วล่ะ"
"อือ รู้" เจนีนผละกายออก
"ไม่มีใครฝืนคู่ชะตาได้ เรื่องนี้เราทุกคนต่างรู้ดี"
พูดจบเจนีนผลักกายของเพื่อนสนิทนามว่า เจโน่ เลพเพิร์ดให้นอนราบลงบนโซฟาก่อนที่ตัวเองจะทิ้งตัวลงนอนตามอีกฝ่ายไปเพื่อรับกอดที่แสนอบอุ่นจากคนข้างกายที่มีกันและกันมากว่าครึ่งชีวิต
ที่บอกว่าต่างฝ่ายต่างบริสุทธิ์ใจ ใช่ มันคือเรื่องโกหก
แต่เพราะว่าเราต่างรู้ดีว่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่แห่งโชคชะตากันจะรับรู้ซึ่งกันและกันได้เมื่อมีกายสัมผัสกายกันตั้งแต่ครั้งแรก แต่กับพวกเขาทั้งสองที่สัมผัสกันนับครั้งไม่ถ้วน จึงรู้ดีว่าเขาทั้งสองไม่ได้เกิดมาคู่กัน
แม้การกัดคอจะลบล้างคู่แห่งโชคชะตาได้ แต่เพราะได้ตกลงกันไว้ว่าหากอายุ 30 แล้วยังไม่เจอคู่แท้ พวกเขาจะกัดคอของกันและกันเพื่อสร้างพันธะให้กัน
ทั้งๆที่พวกเขาต่างรอเวลานั้นมาด้วยกันตั้งแต่อายุ 20 แต่ทุกอย่างกลับพังลงเมื่ออายุ 28 ที่เหลืออีกแค่ 2 ปีเท่านั้น ที่พวกเขาก็จะได้รักกันอย่างไม่ต้องเผื่อใจเสียที
แต่ตอนนี้...
มันจบแล้ว
------------------------------------
เศร้าเฉย...
อธิบายตรงนี้นะคะว่าเจนีนกับคุณมาร์ตินได้เจอกันครั้งแรก และเมื่อแตะต้องตัวกันเขาก็รู้ได้ในทันที ส่วนที่น้องเจนีนของเราปล่อยกายปล่อยใจ เอาจริงแล้วคือน้องทำไปเพราะประชดให้กับชีวิตของตัว ที่แบบ เออ ฉันรักเจโน่นะ แต่ฉันดันมาเจอกับคุณว่ะ อะไหนๆก็เจอแล้ว ก็ปล่อยให้มันเป็นไปละกัน
ใช่ค่ะ เจโน่และเจนีนเขารักกัน แต่เพราะต่างรู้ดีว่าไม่ใช่คู่ของกันและกัน ทั้งสองเลยไม่ดื้อดึง และอยู่กันแบบเพื่อน รักกันแบบเพื่อน ที่มากกว่าเพื่อนในเรื่องอย่างว่า
ส่วนหนูเจอร์รี่ มัวร์ ซึ่งเป็นเพื่อนของเจนีน แน่นอนค่ะว่าเจโน่รู้จักเจอร์รี่ แต่ไม่เคยคุย รู้แค่ว่าเป็นเพื่อนสนิทของเจนีน เพราะเจโน่ก็บอกแล้วว่าเพื่อนที่เป็นโอเมก้านั้นมีแค่คนเดียวคือเจนีน เหตุผลเพราะที่บ้านไม่ยอมรับโอเมก้า ส่วนเจโน่กับเจอร์รี่รู้ได้ยังไงว่าคู่กันก็รอติดตามนะคะ อาจจะไม่ใช่ตอนหน้า เพราะตอนหน้าน้องเจนีนจะได้เจอกับพ่อเจย์ค่ะ
ส่วนดราม่าไม่ดราม่า เราก็จะบอกว่สแต่งฟิคดราม่าไม่เป็นค่ะ 555555
ขอกำลังใจด้วยนะคะ จะไปในแท็กก็ได้ค่ะ #ficclfs อันนี้แท็กฟิค ส่วน #keepgoingmm จะเป็นของเรื่องนี้ค่ะ
ปล. จะบอกว่าไม่ว่างแล้วนะคะ เพราะเรามีเรียนทั้ง 7 วัน อาทิตย์ถึงเสาร์เลยค่ะ แต่ก็จะพยายามมาบ่อยๆนะคะ เท่าที่จะบ่อยได้เลย
ปล.2 ฝากจอยด้วยนะ #สะใภ้จ้าวnr ค่ะ
ไปแยะ
รักทู้กคนนนนนนน
Comments